แนวทางการปฏิรูปกฎหมายทางการประกอบธุรกิจด้านการค้าบริการของคนต่างด้าว
Publisher
Issued Date
2018
Issued Date (B.E.)
2561
Available Date
Copyright Date
Resource Type
Series
Edition
Language
tha
File Type
application/pdf
No. of Pages/File Size
408 แผ่น
ISBN
ISSN
eISSN
Other identifier(s)
b205819
Identifier(s)
Access Rights
Access Status
Rights
ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
Rights Holder(s)
Physical Location
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา
Bibliographic Citation
Citation
อัจฉราพร สีหวัฒนะ (2018). แนวทางการปฏิรูปกฎหมายทางการประกอบธุรกิจด้านการค้าบริการของคนต่างด้าว. Retrieved from: https://repository.nida.ac.th/handle/662723737/6489.
Title
แนวทางการปฏิรูปกฎหมายทางการประกอบธุรกิจด้านการค้าบริการของคนต่างด้าว
Alternative Title(s)
Author(s)
Advisor(s)
Editor(s)
item.page.dc.contrubutor.advisor
Advisor's email
Contributor(s)
Contributor(s)
Abstract
การศึกษาวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงหลักการ แนวคิด ทฤษฎีธุรกิจการค้าบริการตาม
หลักเกณฑ์สากลและกฎหมายของต่างประเทศ เช่น ประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม
พม่า จีนและวิเคราะห์ เปรียบเทียบเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายการประกอบธุรกิจ
บริการให้ชัดเจนและเหมาะสม โดยมีวิธีการศึกษาเป็นการศึกษาเชิงคุณภาพ (Qualitative Research)
ศึกษาและวิเคราะห์จากหลักการ แนวคิด ทฤษฎีและกฎหมายต่างประเทศ และการสัมภาษณ์เชิงลึก
(In-depth Interview) จากตัวอย่าง 3 กลุ่ม คือ 1. นักวิชาการด้านกฎหมายธุรกิจ 2. ที่ปรึกษา
กฎหมายและทนายความที่เกี่ยวข้องกับการเข้ามาประกอบธุรกิจของต่างชาติ 3. เจ้าหน้าที่ภาครัฐของ
กระทรวงพาณิชย์ที่ปฏิบัติงานด้านการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เพื่อนามาประกอบการวิเคราะห์
สังเคราะห์ปรับปรุงกฎหมายให้มีความชัดเจนโปร่งใสและเป็นแนวทางเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
ของผู้ประกอบธุรกิจบริการในประเทศให้ดีขึ้น
ผลการศึกษาพบว่า ปัจจุบันธุรกิจบริการมีความสาคัญต่อเศรษฐกิจเท่าเทียมกับภาคการผลิต
ประเภทธุรกิจบริการมีความหลายหลายมากกว่าเดิมเนื่องจากมีการนาเทคโนโลยีเข้ามาใช้เป็นส่วน
สำคัญในการดำเนินธุรกิจ จึงต้องพัฒนากฎหมายที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสมซึ่งได้แก่พระราชบัญญัติการ
ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 เป็นกฎหมายที่กำหนดรายการห้ามคนต่างชาติประกอบ
ธุรกิจบริการไว้ แต่อย่างไรก็ตาม มีคนต่างชาติบางประเภทมีสิทธิเข้ามาประกอบธุรกิจบริการที่ห้ามได้
หรือต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจโดยผ่านกฎหมายเกี่ยวกับการลงทุนหรือกฎหมายอื่น หรือต่างชาติที่
เข้ามาประกอบธุรกิจบริการที่ห้ามแต่อาศัยการใช้ตัวแทนทาการแทนโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึง
พบว่าแม้มีการห้ามคนต่างชาติประกอบธุรกิจบริการแต่คงมีปัญหาการเข้ามาประกอบธุรกิจบริการโดย
ไม่ชอบด้วยกฎหมายของต่างชาติเกิดขึ้นเสมอ หรือแม้จะกำหนดธุรกิจบริการที่ห้ามต่างชาติเนื่องจาก
คนไทยไม่พร้อมในการแข่งขันแต่ก็มีการอนุญาตให้ต่างชาติประกอบธุรกิจได้ ประกอบกับในขณะนี้ประเทศไทยมีนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเป็น Thailand 4.0 ให้ความสำคัญในการอำนวย
ความสะดวกด้านการประกอบธุรกิจของต่างชาติมากขึ้นซึ่งสอดคล้องกับนโยบายขององค์การการค้า
โลกที่ต้องการให้ประเทศสมาชิกเปิดเสรีธุรกิจการค้าบริการระหว่างประเทศมากขึ้น ประเทศไทยมี
การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจหลายฉบับ แต่กฎหมาย
สำหรับการประกอบธุรกิจของคนต่างชาติยังไม่มีการปรับปรุงอย่างเป็นระบบ ฉะนั้น เพื่อพัฒนา
กฎหมายการประกอบธุรกิจบริการของคนต่างด้าวให้มีความชัดเจนตามหลักสากลและเพื่อส่งเสริม
ศักยภาพผู้ประกอบธุรกิจบริการไทยให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งภายในและนอกประเทศ
จึงเห็นว่าควรเสนอแนวทางปรับปรุงแก้ไขกฎหมายการประกอบธุรกิจบริการของต่างด้าวเพิ่มเติมดังนี้
1) จัดกลุ่มธุรกิจในบัญชี 3 ของพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542
การจัดกลุ่มธุรกิจทาให้มีความชัดเจนในรายการธุรกิจบริการและผู้ประกอบธุรกิจต่างชาติทำความ
เข้าใจได้ง่ายว่าธุรกิจใดขออนุญาตได้หรือไม่ได้ โดยการแบ่งกลุ่มเป็น (1) กลุ่มอาชีพเดิมเกี่ยวข้องกับ
การเกษตรและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องต้องสงวนสำหรับคนชาติ ไม่อนุญาตให้ต่างชาติประกอบธุรกิจ
(2) กลุ่มธุรกิจบริการที่จาเป็นกับอุตสาหกรรมเดิมและอุตสาหกรรมใหม่ เป็นธุรกิจที่อนุญาตให้
ต่างชาติประกอบธุรกิจได้อย่างมีเงื่อนไข (3) กลุ่มธุรกิจบริการอื่นที่ไม่ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูงหรือเงิน
ลงทุนสูงหรือผู้เชี่ยวชาญต่างชาติจัดเป็นกลุ่มที่คนไทยมีความพร้อมในการแข่งขัน อนุญาตให้ต่างชาติ
ประกอบธุรกิจได้ภายใต้กฎกระทรวงและกฎหมายเฉพาะ
2) นำธุรกิจบริการบางรายการออกจากบัญชีสาม ธุรกิจบริการที่คนไทยมีความพร้อมในการ
แข่งขันควรนำออกจากบัญชีสามโดยออกเป็นกฎกระทรวงทั้งนี้เพื่อส่งเสริมศักยภาพในการแข่งขันของ
ผู้ประกอบธุรกิจไทย
3) คำว่า “ธุรกิจบริการอื่น” ในบัญชีสาม ข้อ 21 มีความหมายครอบคลุมทุกรายการธุรกิจ
อีกทั้งการอนุญาตหรือไม่เป็นดุลพินิจของคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวจึง
คาดการณ์ไม่ได้ว่าจะได้รับอนุญาตหรือไม่ การใช้คำที่ครอบคลุมธุรกิจบริการทุกประเภทจึงทำให้มี
ความไม่ชัดเจนและเป็นอุปสรรคต่อการเข้าสู่ตลาดการลงทุนในธุรกิจบริการ ฉะนั้น คำว่า “การทำ
ธุรกิจบริการอื่นยกเว้นธุรกิจบริการที่กำหนดในกฎกระทรวง” ควรแก้ไขเป็น “ธุรกิจบริการอื่นสามารถ
ทำได้เว้นแต่จะกาหนดในกฎกระทรวง หรือธุรกิจบริการอื่นที่กำหนดห้ามไว้โดยกฎกระทรวง” ซึ่งจะ
ทำให้ข้อ 21 ในบัญชีสามเป็นไปในทิศทางเชิงบวก (Positive List) มากขึ้นย่อมเกิดผลดีต่อการแข่งขัน
และการลงทุนในธุรกิจบริการ
4) กำหนดรายการธุรกิจบริการในข้อ 21 ให้ชัดเจน คำว่าการทำธุรกิจบริการอื่นในข้อ 21
สามารถกำหนดเป็นรายการธุรกิจบริการที่ไม่ต้องขออนุญาตเพื่อให้มีความชัดเจนได้ จึงเห็นว่าควร
ปรับปรุงแก้ไขโดยออกเป็นกฎกระทรวงเพื่อกำหนดเป็นธุรกิจที่ไม่ต้องของอนุญาต ซึ่งมีธุรกิจบริการที่
ควรกำหนดยกเว้นไม่อยู่ในข้อ 21 ได้แก่ (ก) บริการให้แก่บริษัทในเครือ/ในกลุ่ม (ข) บริการเป็นสำนักผู้แทนหรือสำนักงานภูมิภาค (ค) บริการด้านคอมพิวเตอร์ (ง) บริการซ่อมแซมบารุงรักษาเครื่องจักร
เครื่องมือ (จ) บริการรับจ้างผลิต (ฉ) บริการเป็นที่ปรึกษาโครงการให้กับภาครัฐหรือรัฐวิสาหกิจ
5) กำหนดให้มีการจัดการอบรมให้ผู้ประกอบธุรกิจบริการ เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจบริการ
ต่างชาติตระหนักในเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมและวัฒนธรรมไทยเช่น การอบรมจริยธรรมและ
ความมีจรรยาบรรณของผู้ประกอบธุรกิจบริการโฆษณา โดยให้มีผลถึงการออกใบอนุญาตในการทำ
ธุรกิจโดยไม่ต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ด้วยการออก
กฎกระทรวงให้ผู้ประกอบธุรกิจบริการต้องผ่านการอบรมเพื่อเน้นความเข้าใจคุณธรรมและมีความ
รับผิดชอบต่อจารีตประเพณีศีลธรรมอันดีของประชาชน จะทำให้ผู้ประกอบธุรกิจบริการต้อง
ตรวจสอบเนื้อหาในบริการของตนเองอย่างรอบครอบก่อนเพื่อให้มีผลต่อการออกใบรับรองให้กับธุรกิจ
บริการที่ดาเนินการได้ถูกต้องตามที่กำหนด จึงจะสามารถนาใบรับรองที่ได้รับนาไปใช้กับหน่วยงาน
ต่าง ๆ ได้ต่อไป
Table of contents
Description
วิทยานิพนธ์ (น.ด.)--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2561