มาตรการทางกฎหมายในการคุ้มครองสิทธิและสงเคราะห์ผู้พ้นโทษ
Publisher
Issued Date
2018
Issued Date (B.E.)
2561
Available Date
Copyright Date
Resource Type
Series
Edition
Language
tha
File Type
application/pdf
No. of Pages/File Size
379 แผ่น
ISBN
ISSN
eISSN
Other identifier(s)
b205817
Identifier(s)
Access Rights
Access Status
Rights
ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
Rights Holder(s)
Physical Location
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา
Bibliographic Citation
Citation
ศักดิ์ชัย เลิศพานิชพันธุ์ (2018). มาตรการทางกฎหมายในการคุ้มครองสิทธิและสงเคราะห์ผู้พ้นโทษ. Retrieved from: https://repository.nida.ac.th/handle/662723737/6491.
Title
มาตรการทางกฎหมายในการคุ้มครองสิทธิและสงเคราะห์ผู้พ้นโทษ
Alternative Title(s)
Legal measures for the protection of rights and assistance of ex-offenders
Author(s)
Advisor(s)
Editor(s)
item.page.dc.contrubutor.advisor
Advisor's email
Contributor(s)
Contributor(s)
Abstract
ดุษฎีนิพนธ์ เรื่อง “มาตรการทางกฎหมายในการคุ้มครองสิทธิและสงเคราะห์ผู้พ้นโทษ”
(Legal Measures for the Protection of Rights and Assistance of Ex-Offenders) มี
วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษา ค้นคว้า แนวคิดด้านสิทธิและการคุ้มครองสิทธิ การลงโทษ การสงเคราะห์
ผู้กระทาผิดและทฤษฎีทางสวัสดิการสังคม เพื่อศึกษาพัฒนาการของมาตรการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้
พ้นโทษในประเทศไทยและต่างประเทศ เพื่อศึกษาวิเคราะห์เชิงลึกในประเด็นปัญหา อุปสรรคของ
กฎหมายสาหรับการสงเคราะห์ผู้พ้นโทษของประเทศไทยเปรียบเทียบกับต่างประเทศ และสุดท้าย
เพื่อหาแนวทางในการพัฒนากฎหมายเพื่อการคุ้มครองและสงเคราะห์ผู้พ้นโทษรวมถึงมาตรการ
คุ้มครองสังคม วิธีการศึกษาเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) โดยการศึกษา
เปรียบเทียบกฎหมาย (Comparative Law) มีขอบเขตในการศึกษาวิเคราะห์กฎหมายด้านการ
คุ้มครองสิทธิและสงเคราะห์ผู้พ้นโทษ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ได้แก่ ทาให้ได้ประเด็นสาคัญเชิงลึกและเชิงเปรียบเทียบทางกฎหมายใน
การคุ้มครองสิทธิและสงเคราะห์ผู้พ้นโทษ อีกทั้งจะได้ข้อเสนอแนะในการพัฒนาร่างกฎหมายเพื่อการ
คุ้มครองสิทธิและสงเคราะห์ผู้พ้นโทษที่มีประสิทธิภาพและเป็นธรรม
ผลการศึกษาจากข้อมูลทางวิชาการ สามารถตอบวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ โดยพบว่า การ
คุ้มครองสิทธิและสงเคราะห์ผู้พ้นโทษจะต้องเป็นไปตามกฎ กติกาสากลและพันธกรณีระหว่างประเทศ
ในการคุ้มครองสิทธิและสงเคราะห์ผู้พ้นโทษ รวมถึงหลักแห่งความยุติธรรมและหลักนิติธรรม สำหรับ
ประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2497 เคยมีการประกาศใช้ “พระราชบัญญัติสงเคราะห์บุคคลผู้ที่ได้รับการ
พักการลงโทษ ผู้พ้นโทษ และเด็กผู้พ้นการฝึกอบรม พ.ศ. 2497” แต่มิได้มีการดำเนินในเชิงคุ้มครอง
สิทธิและสงเคราะห์อย่างจริงจังแต่อย่างใด และได้ยกเลิกไปเมื่อ พ.ศ. 2499 ทาให้ประเทศไทยไม่มี
กฎหมายคุ้มครองสิทธิและสงเคราะห์ผู้พ้นโทษโดยเฉพาะที่เป็นกิจจะลักษณะ กฎหมายที่มีอยู่ปัจจุบัน
ก็ยังไม่สามารถช่วยเหลือผู้พ้นโทษได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากส่วนใหญ่จะใช้กฎหมาย ระเบียบ
การสงเคราะห์กลุ่มผู้อยู่ในสภาวะยากลาบากทั่วไป เช่น ในฐานะ “ผู้รับบริการ” ตามพระราชบัญญัติ ส่งเสริมการจัดสวัสดิการ พ.ศ. 2546 ตรงกันข้ามกฎหมายหลายฉบับกลับเป็นอุปสรรคในการศึกษา
เล่าเรียน และการทำงานของผู้พ้นโทษ จึงควรมีการบัญญัติกฎหมายเฉพาะในการคุ้มครองสิทธิและ
สงเคราะห์ผู้พ้นโทษ เพื่อป้องกันมิให้บุคคลเหล่านั้นหวนกลับไปกระทำความผิดอีก อีกทั้งควรมีการ
กระจายความเป็นธรรมทางสังคมไปยังกลุ่มที่มีความเปราะบางทางสังคม
ผู้ศึกษามีข้อค้นพบแยกเป็นปัญหาด้านการคุ้มครองสิทธิของผู้พ้นโทษและปัญหาด้านการ
สงเคราะห์ผู้พ้นโทษ จึงมีข้อเสนอแนะแยกพิจารณาได้ดังนี้
1) ข้อเสนอแนะมาตรการทางกฎหมายด้านการคุ้มครองสิทธิของผู้พ้นโทษ (1) ควรมีการ
จัดทำร่าง “พระราชบัญญัติคุ้มครองและสงเคราะห์ผู้พ้นโทษ”อย่างเป็นกิจจะลักษณะเพื่อให้การ
คุ้มครองและสงเคราะห์ผู้พ้นโทษมีความเป็นรูปธรรมและเป็นระบบ (2) ควรบัญญัติกลุ่มเป้าหมายที่
ชัดเจนว่า ผู้พ้นโทษ ที่กฎหมายมุ่งคุ้มครอง หมายถึงใครบ้าง (3) ควรส่งเสริมให้กรมคุ้มครองสิทธิและ
เสรีภาพ กระทรวงยุติธรรมมีบทบาทร่วมกับกรมคุมประพฤติให้มากขี้น (4) ควรมีบทบัญญัติเรื่อง
หลักเกณฑ์การขอลบหรือปกปิดประวัติการกระทำผิด (5) ควรมีการปรับปรุงการบัญญัติกฎหมายล้าง
มลทินให้สามารถลบล้างการกระทำผิดด้วยมิใช่ลบล้างเฉพาะตัวโทษที่ผู้พ้นโทษได้รับ (6) ควรมี
บทบัญญัติให้ผู้พ้นโทษมีช่องทางพิเศษในการร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนหรือกรม
คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพได้อย่างรวดเร็วหรือสามารถใช้สิทธิทางศาลในกรณีถูกเลือกปฏิบัติ 2)
ข้อเสนอแนะมาตรการทางกฎหมายด้านการสงเคราะห์ผู้พ้นโทษ (1) ควรมีบทบัญญัติให้กรมคุม
ประพฤติทำหน้าที่ในการดูแลผู้พ้นโทษโดยตรง (2) ควรมีการกำหนดขอบเขตหน้าที่ของหน่วยงาน
ด้านการสงเคราะห์สำหรับผู้พ้นโทษจากกระบวนการยุติธรรมทั้งภาครัฐและเอกชน ในการส่งต่อ
ข้อมูลของผู้พ้นโทษ (3) ควรจัดตั้ง “คณะกรรมการคุ้มครองและสงเคราะห์ผู้พ้นโทษ” ระดับชาติ (4)
ควรมีคณะกรรมการคุ้มครองและสงเคราะห์ผู้พ้นโทษกรุงเทพมหานครและระดับจังหวัดที่เพิ่มสัดส่วน
ภาคประชาชนให้เข้ามามีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น (5) ควรมีการกำหนดอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นในการสงเคราะห์ ดูแลและเฝ้าระวังผู้พ้นโทษ (6) ควรจัดตั้งองค์กรอิสระเป็นศูนย์กลาง
การเก็บประวัติการกระทาผิด (7) ควรจัดทำฐานข้อมูลผู้พ้นโทษเพื่อให้การช่วยเหลือในเชิงป้องกันการ
กระทำผิดซ้ำ (8) ควรมีการขยายระยะเวลาการสงเคราะห์ผู้พ้นโทษหลังจากการพ้นโทษ (9) ควรมี
บทบัญญัติเกี่ยวกับบ้านกึ่งวิถี (Halfway House (10) ควรมีกระบวนการสรรหาบุคคลที่มีคุณภาพเข้า
ทางานในบ้านกึ่งวิถี (11) ควรมีบทบัญญัติกำหนดบทบาทและหน้าที่ของอาสาสมัครในพื้นที่ของ
กระทรวงต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงกัน (12) ควรมีบทบัญญัติจัดสรรงบประมาณเฉพาะสาหรับการสงเคราะห์
ผู้พ้นโทษ โดยกระทรวงยุติธรรมเป็นแกนหลัก (13) ควรมีบทบัญญัติการจัดตั้งกองทุนเพื่อการคุ้มครอง
และสงเคราะห์ผู้พ้นโทษ (14) ควรมีบทบัญญัติให้ประโยชน์ตอบแทนให้กับบริษัท ห้างร้านเอกชนที่
ยอมจ้างงานผู้พ้นโทษ (15) ควรส่งเสริมให้ภาครัฐมีอานาจในการทำสัญญากรณีพิเศษเพื่อจัดจ้างผู้พ้น
โทษที่มีทักษะความเชี่ยวชาญพิเศษ และ (16) ควรมีหน่วยงานเฉพาะในการติดตามประเมินผลการ
กลับคืนสู่สังคมของผู้พ้นโทษ
Table of contents
Description
วิทยานิพนธ์ (น.ด.)--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2561