โครงสร้างรายได้รายจ่ายและปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการจัดสรรงบประมาณของเทศบาล
Publisher
Issued Date
2010
Issued Date (B.E.)
2553
Available Date
Copyright Date
Resource Type
Series
Edition
Language
tha
File Type
application/pdf
No. of Pages/File Size
13, 211 แผ่น ; 30 ซม.
ISBN
ISSN
eISSN
DOI
Other identifier(s)
Identifier(s)
Access Rights
Access Status
Rights
ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
Rights Holder(s)
Physical Location
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา
Bibliographic Citation
Citation
พรทิพย์ กาญจนานนท์ (2010). โครงสร้างรายได้รายจ่ายและปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการจัดสรรงบประมาณของเทศบาล. Retrieved from: http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/949.
Title
โครงสร้างรายได้รายจ่ายและปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการจัดสรรงบประมาณของเทศบาล
Alternative Title(s)
Revenue structure, expenditure structure, and factors affecing municipal budget allocation
Author(s)
Advisor(s)
Editor(s)
item.page.dc.contrubutor.advisor
Advisor's email
Contributor(s)
Contributor(s)
Abstract
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (ก) โครงสร้างรายได (ข) การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายของเทศบาล (ค) ปัจจัยที่มีอิทธพลต่อการจัดสรรงบประมาณจำแนกเป็น 6 ด้าน ได้แก่ รายจ่ายรวมรายจ่ายด้านบริหารทั่วไป รายจ่ายด้านการศึกษา รายจ่ายด้านสาธารณสุข รายจ่ายด้านเคหะและชุมชนและรายจ่ายด้านอุตสาหกรรมและโยธา (ง) การศึกษาเปรียบเทียบ ปัจจัยที่มีอิทธพลต่อรายจ่ายทั้ง 6 ด้านการวิเคราะห์ใช้ข้อมูลรายปีจํานวน 4 (2548-2551) กรณี ตัวอย่างได้แก่เทศบาลนคร 10 แห่งเทศบาลเมือง 48 แห่งและเทศบาลตําบล 448 แห่ง ผลการศึกษาโครงสร้างรายได้พบว่าเทศบาลยงพึ่งพารายได้จากรัฐบาลในสัดส่วนที่สูง รายได้ที่จัดเก็บเองเพียงร้อยละ 7 เทศบาลนครและเทศบาลเมืองมรายได้จัดเก็บเองสูงกว่า เทศบาลตำบลอย่างมาก แต่รายได้จากเงินอุดหนุนของรัฐบาลและภาษีที่รัฐบาลจัดเก็บให้และ แบ่งให้ช่วยทำใหรายได้เฉลี่ยต่อหัวของเทศบาลทั้ง 3 ประเภทไม่แตกต่างกันมากนักเทศบาลในภาคใต้มีรายได้เฉลี่ยต่อหัวสูงที่สุดและต่ำสุดคือเทศบาลในภาคตะวนออกเฉียงเหนือ และมีความ ไม่เท่าเทียมกันสูงในภาคต่างๆ การวิเคราะห์ด้านรายจ่ายพบว่าเทศบาลมีการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายเพมขึ้นทุกปีด้าน ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณสูงสุดคือด้านเคหะชุมชน รองลงมาคือด้านบริหารทั่วไปและมีแนวโน้มที่จะจัดสรรงบประมาณเพิ่มขึ้นในรายจ่ายเกี่ยวกับสวัสดิการเช่นการศึกษาสาธารณสุข และสังคมสงเคราะห์เทศบาลมีรูปแบบความต้องการในบริการสาธารณะเปลี่ยนแปลงไปตาม ระดับของความเจริญ เทศบาลนครและเทศบาลเมือง รวมทงเทศบาลที่มีรายได้สูงเช่นเทศบาล ภาคใต้ใหความสำคัญกับงบประมาณด้านการศึกษา ในขณะทเทศบาลที่มีความเจริญน้อยและมีรายได้น้อยเช่นเทศบาลตาบและเทศบาลในภาคตะวนออกเฉียงเหนือให้ความสำคญกับรายจ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานการทดสอบข้อมูลเชิงประจักษ์กับทฤษฎสรุปได้ว่า (ก) ทฤษฎี Incrementalist อธิบายการ จัดสรรงบประมาณของเทศบาลได้ดีที่สุด การจัดสรรงบประมาณส่วนใหญ่ใช้ประสบการณ์ปีที่ ผ่านมาเป็นฐานเนื่องจากรัฐบาลจัดสรรเงินอุดหนุนและภาษให้เทศบาลไม่ให้น้อยกว่าปีที่ผ่านมา การจัดสรรงบประมาณโดยอ้างปีที่ผ่านมาจงลดความเสี่ยงจากความไม่เพียงพอของทรัพยากร และ ลดความขัดแย้งระหว่างสภาเทศบาลกับฝ่ายบริหาร และเทศบาลตำบลจัดสรรงบประมาณเกือบทุกด้านเป็นไปตามทฤษฎีดังกล่าวมากกว่าเทศบาลนครและเทศบาลเมือง (ข) นอกจากนี้ยังไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างปีที่มีการเลือกตั้งกับการเพิ่มขึ้นของงบประมาณตามตัวแบบ Political Business Cycle เนื่องจากเทศบาลมการเลือกตั้งไม่พร้อมกันและอาจมีรายจ่ายเพิ่มขึ้นโดยจ่ายขาดจากเงินสะสมหรือเงินอุดหนนเฉพาะกิจ (ค) Median Voter Model ไม่สามารถอธิบายการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายของเทศบาลในช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านนได้ด้วยยังคงมีการทับซ้อนกันของการใหบริการสาธารณะในพื้นที่และ (ง) Budget-Maximizing Bureaucrat Theory ไม่ชัดเจนพอที่จะอธิบายการจัดสรรงบประมาณของเทศบาลได้ว่าเป็นไปเพื่อประโยชน์ของบุคลากรเทศบาลเองแม้จะพบว่าสัดส่วนของบุคลากรมความสัมพันธ์กับรายจ่ายบางประเภทกตาม ข้อเสนอนะจากการคนพบ(ก)รัฐบาลควรเพิ่มภาษีที่เทศบาลจัดเก็บเองทั้งขยายฐาน ภาษีและให้อิสระในการกำหนดอัตราภาษีและค่าธรรมเนียมเองได้ (ข) ยกเลิกเงินอุดหนุนแบบ กําหนดวัตถุประสงค์เพื่อให้เทศบาลตัดสนใจใช้จ่ายเงินได้โดยอิสระ(ค) การจัดสรรเงินอุดหนุนควรยึดหลักความพอเพียงต่อภารกิจที่ได้รับมอบหมาย และความเท่าเทียมกันในภาคต่างๆด้วย รวมทั้ง ) รัฐบาลควรสนับสนุนให้ประชาชนมีช่องทางในการแสดงความต้องการของตนเองเพื่อให้การจัดสรรงบประมาณในการให้บริการสาธารณะตอบสนองความต้องการของประชาชนใน ท้องถิ่นอย่างแท้จริงงจะทำให้การจัดสรรงบประมาณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสอดคลองกับ เจตนารมณ์ของนโยบายกระจายอำนาจการปกครองให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
Table of contents
Description
วิทยานิพนธ์ (รป.ด.)--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2010