การพัฒนาตัวแบบความยืดหยุ่นของโซ่อุปทานสินค้าเกษตร กรณีศึกษา มันสำปะหลังในประเทศไทย
dc.contributor.advisor | สราวุธ จันทร์สุวรรณ | th |
dc.contributor.author | ปารียา ศิริวัฒนพันธ์ | th |
dc.date.accessioned | 2022-03-16T10:46:57Z | |
dc.date.available | 2022-03-16T10:46:57Z | |
dc.date.issued | 2016 | th |
dc.date.issuedBE | 2559 | th |
dc.description | วิทยานิพนธ์ (วท.ม. (การจัดการโลจิสติกส์))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2559 | th |
dc.description.abstract | ยุทธศาสตร์สำคัญ ประการหนึ่งของภาครัฐคือการเพิ่มขีดความสามารถในการบริหาร จัดการระบบโลจิสติกส์และโซ่อุปทานสินค้าเกษตรตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงผู้บริโภคโดยมุ่งเน้นการ บริหารจัดการโลจิสติกส์ให้มีประสิทธิภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้สูงขึ้น ตัวชี้วัดประสิทธิภาพตามแผนยุทธศาสตร์ที่ผ่านมาพิจารณาเพียงเรื่องของต้นทุน (Cost) เวลา (Lead Time) และความน่าเชื่อถือ (Reliability) แต่ตัวชี้วัดที่สำคัญอีกตัวหนึ่งคือ ความยืดหยุ่นของโซ่ อุปทาน ซึ่งแสดงถึงความสามารถที่ระบบสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์อันเป็นผลมา จากการเปลี่ยนแปลงของราคาและนโยบายการสนับสนุนของภาครัฐยังไม่ได้กล่าวถึงมากนักใน ระบบโซ่อุปทานสินค้าเกษตร บทความนี้จึงได้พัฒนาตัวแบบทางคณิตศาสตร์ขึ้นมาเพื่อใช้วัดความยืดหยุ่นของโซ่อุปทาน (Supply Chain Flexibility) โดยนำมาประยุกต์ใช้กับกรณีศึกษามันสำปะหลัง ซึ่งเป็นพืชยุทธศาสตร์ที่สำคัญของประเทศ ซึ่งการพัฒนาตัวแบบพิจารณาตั้งแต่ส่วนการเพาะปลูก โดยเกษตรกร การแปรรูปจากมันสำปะหลังสดเป็นแป้งมันสำปะหลัง และการขนส่งไปยังท่าเรือ เพื่อการส่งออกโดยตัวแบบที่สร้างขึ้นแบ่งออกเป็น 2 ตัวแบบคือ ตัวแบบ Deterministic และตัวแบบ Stochastic ซึ่งในแต่ละตัวแบบจะแบ่งออกเป็น 2 ขั้น โดยขั้นที่1 เป็นตัวแบบสำหรับการหาความสามารถพื้นฐานของโซ่อุปทานที่ทำให้เกิดผลกำไรสูงที่สุด และขั้นที่2 เป็นตัวแบบที่ใช้ ประเมินค่าความยืดหยุ่น ของโซ่อุปทานที่สามารถเพิ่มได้สูงที่สุดจากความสามารถพื้นฐานที่ได้จาก ขั้นที่1 ซึ่งค่าที่ได้จะเป็นความสามารถสำรอง (Reserve Capacity) ของระบบโซ่อุปทาน ทั้งนี้ตัว แบบสามารถเป็นแนวทางให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องในการกำหนดนโยบายเพื่อเพิ่มศักยภาพของโซ่อุปทาน รวมถึงระบุจุดคอขวดของระบบเพื่อให้รองรับกับการเปลี่ยนแปลงอุปทานและอุปสงค์ในอนาคตได้ อย่างมีประสิทธิภาพ | th |
dc.format.extent | 116 แผ่น | th |
dc.format.mimetype | application/pdf | th |
dc.identifier.doi | 10.14457/NIDA.the.2016.151 | |
dc.identifier.other | b192970 | th |
dc.identifier.uri | https://repository.nida.ac.th/handle/662723737/5674 | th |
dc.language.iso | tha | th |
dc.publisher | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ | th |
dc.rights | ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0) | th |
dc.subject.other | สินค้าเกษตร | th |
dc.subject.other | การบริหารงานโลจิสติกส์ | th |
dc.subject.other | มันสำปะหลัง | th |
dc.title | การพัฒนาตัวแบบความยืดหยุ่นของโซ่อุปทานสินค้าเกษตร กรณีศึกษา มันสำปะหลังในประเทศไทย | th |
dc.title.alternative | Modeling agricultural supply chain flexibility : a case study of cassava in Thailand | th |
dc.type | text--thesis--master thesis | th |
mods.genre | Thesis | th |
mods.physicalLocation | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา | th |
thesis.degree.department | คณะสถิติประยุกต์ | th |
thesis.degree.discipline | การจัดการโลจิสติกส์ | th |
thesis.degree.grantor | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ | th |
thesis.degree.level | Masters | th |
thesis.degree.name | วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต | th |
Files
Original bundle
1 - 1 of 1