ขอบเขตของการเป็น"ผู้ใช้": ศึกษากรณีผู้ถูกใช้ตัดสินใจกระทำความผิดเเล้วต่อมาเปลี่ยนใจไปกระทำความผิดอันใหม่ที่เป็นผลมาจากการก่อให้กระทำความผิด
dc.contributor.advisor | บรรเจิด สิงคะเนติ | th |
dc.contributor.author | พงศ์พิงค์ มูลพงศ์อนุพันธุ์ | th |
dc.date.accessioned | 2017-02-15T08:07:58Z | |
dc.date.available | 2017-02-15T08:07:58Z | |
dc.date.issued | 2014 | th |
dc.date.issuedBE | 2557 | th |
dc.description | วิทยานิพนธ์ (น.ม.)--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2556 | th |
dc.description.abstract | ในเรื่องผู้ร่วมกระทำความผิดหลายคนในคดีอาญา ซึ่งในที่นี้จะกล่าวถึง เฉพาะ ผู้ร่วมกระทำความผิดที่เป็นผู้ใช้ ผู้สนับสนุนเท่านั้น ในกรณีที่มีผู้กระทำความผิดหลายคน เนื่องจากในระบบกฎหมายอาญาของไทย เป็นระบบที่ยอมรับหลักการลดหย่อนโทษผุู้ร่วมกระทำความผิด ดังนั้นหากเกิดกรณีที่ต้องวิเคราะห์ว่าผู้ใดเป็นผู้ใช้ เเละผู้ใดเป็นผู้สนับสนุน ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ เราจะใช้หลักเกณฑ์อะไรมาเป็๋นจุดแบ่งแยกของการาใช้เเละการสนับสนุน นอกจากนี้ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว จะต้องรับผิดในฐานอะไรบ้าง โดยเฉพาะเมื่อปี 2553 เนติบัญฑิตยสภาได้ออกข้อสอบกลุ่มวิชาอาญา เพื่อทดสอบนักศึกษาว่าเข้าใจหลักเรื่องผู้ใช้ ก็จะเกิดปัญหาขึ้นมาว่า ใช้หลักเกณฑ์อะไรมาเป็นจุดแบ่งแยกระหว่างผู้ใช้กับผู้สนับสนุน เนื่องจากไม่ตรงกับหลักเกณฑ์ทางตำราที่ได้ศึกษาค้นคว้า | th |
dc.description.abstract | เพราะฉะนั้นวิทยานิพนธ์ฉบับนี้จึงเขียนขึ้นมาด้วยเหตุผลเดียว คือ จะศึกษาถึงหลักเกณฑ์ที่ใช้ในการแบ่งแยกผู้ร่วมกระทำผิด ซึ่งจะศึกษาเฉพาะความหมายของ ผู้ใช้เเละผู้สนับสนุน เเละในกรณีที่ผู้ถูกใช้ตัดสินใจกระทำผิดเเล้วต่อมาเปลี่ยนใจไปกระทำผิดอันใหม่ที่เป็นผลมาจากการก่อให้กระทำความผิด | th |
dc.description.abstract | รวมทั้งศึกษาถึงทฤษฎีต่างๆเพื่อนำมาอธิบายปัญหาที่ยังไม่เกิดขึ้นในประเทศไทย หรือที่เรียกว่า "ปัญหาในทางตำรา" อย่างเป็นระบบ โดยศึกษาในสองระบบ ทั้งในระบบCommon Law เเละระบบ Civil law โดยศึกษาหลักกฎเกณฑ์ที่ใช้ในการแบ่งแยก เเล้วนำมาวิเคราะห์เปรียบเทียบกับผู้ใช้ เเละผู้สนับสนุน ตามกำหมายไทย | th |
dc.description.abstract | ข้อมูลที่ใช้อ้างอิงในวิทยานิพนธ์ฉบับนี้ ได้มาจากการค้นคว้าจากตำรา บทความ เเละงานเขียนทางตำราของนักกฎหมายที่มีชื่อเสียงทั้งไทย เเละต่างประเทศ รวมทั้งกฎหมาย เเละปัญหากฎหมายของไทย โดยนำทฤษฎีต่างๆมาวิเคราะห์กับปัญหาดังกล่าว | th |
dc.description.abstract | ท้ายที่สุดเเล้ว สิ่งที่จะได้จากวิทยานิพนธ์ฉบับนี้ คือ เข้าใจหลักเกณฑ์เรื่องผู้ใช้ เเละผู้สนับสนุน รวมทั้งหลักเกณฑ์ในการแบ่งแยกระหว่างผู้ใช้ กับผู้สนับสนุน รวมทั้งการกระทำความผิดในฐานะที่เป็นเนื้อหาของการใช้ให้กระทำความผิด เเละมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุที่ถูกกระทำ เพื่อสามารถนำทฤษฎีต่างๆมาวิเคราะห์ปัญหาดังกล่าวได้อย่างมีเหตุผลยิ่งขึ้น | th |
dc.format.extent | 71 แผ่น | th |
dc.format.mimetype | application/pdf | th |
dc.identifier.other | ba185724 | th |
dc.identifier.uri | http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/3340 | th |
dc.language.iso | tha | th |
dc.publisher | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ | th |
dc.rights | ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0) | th |
dc.subject.other | ความผิดทางอาญา | th |
dc.subject.other | ความผิด (กฎหมาย) | th |
dc.title | ขอบเขตของการเป็น"ผู้ใช้": ศึกษากรณีผู้ถูกใช้ตัดสินใจกระทำความผิดเเล้วต่อมาเปลี่ยนใจไปกระทำความผิดอันใหม่ที่เป็นผลมาจากการก่อให้กระทำความผิด | th |
dc.title.alternative | Scope of to be the "instigator" : a study in the case where a person being instigated decided to commit an offence but later change intention to commit another offence as a result of instigation of an offence | th |
dc.type | text--thesis--master thesis | th |
mods.genre | Thesis | th |
mods.physicalLocation | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา | th |
thesis.degree.department | คณะนิติศาสตร์ | th |
thesis.degree.grantor | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ | th |
thesis.degree.level | Masters | th |
thesis.degree.name | นิติศาสตรมหาบัณฑิต | th |