แนวทางการจัดการผลกระทบทางสังคมที่เกิดจากการท่องเที่ยวในตำบลส่วนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
dc.contributor.advisor | ไพฑูรย์ มนต์พานทอง | th |
dc.contributor.author | ฐิติยา ไม้แก้ว | th |
dc.date.accessioned | 2021-10-19T07:18:34Z | |
dc.date.available | 2021-10-19T07:18:34Z | |
dc.date.issued | 2016 | th |
dc.date.issuedBE | 2559 | th |
dc.description | วิทยานิพนธ์ (ศศ.ม. (การจัดการการท่องเที่ยวแบบบูรณาการ)--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2559 | th |
dc.description.abstract | การวิจัยนี้เป็นการวิจยัเชิงปริมาณ (Quantitative Research) จำแนกตามตัวแปรเพศ อายุ ศาสนา ระดับการศึกษา อาชีพ รายได้และระยะเวลาที่อาศัยในพื้นที่กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ประชาชน ตำบลสวนผึ้งจำนวน 385 คนโดยใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติที่ใช้ในการ วิเคราะห์คือ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติ t-test และ F-test มี วัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาความแตกต่างของตัวแปรด้านประชากร ต่อผลกระทบทางสังคมและ ความคาดหวังของชุมชนต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่เกิดจากการท่องเที่ยวในตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี 2) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของชุมชนต่อผลกระทบทางสังคมที่เกิดจาก การท่องเที่ยวในตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี 3) เพื่อศึกษาความคาดหวังของชุมชน ต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่เกิดจากการท่องเที่ยวในตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี 4) เพื่อเสนอแนวทางการจัดการผลกระทบทางสังคมที่เกิดจากการท่องเที่ยวในตำบลสวนผึ้ง อำเภอ สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ผลการศึกษาวัตถุประสงค์การวิจัยที่ 1 สรุปการทดสอบสมมุติฐาน 1) ประชาชนตำบลสวน ผึ้งที่มีเพศต่างกัน มีความคิดเห็นต่อผลกระทบทางสังคมและความคาดหวังของชุมชนต่อการ เปลี่ยนแปลงทางสังคมที่เกิดจากการท่องเที่ยวในตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้งจังหวดัราชบุรี แตกต่างกันยอมรับสมมุติฐานรอง (H1 ) ในประเด็นผลกระทบทางสังคม ด้านความขัดแย้งเกี่ยวกับ ชุมชนท้องถิ่นและผู้ที่มาใหม่ 2) ประชาชนตำบลสวนผึ้งที่มีอายุต่างกัน ยอมรับสมมุติฐานรอง (H1 ) ในประเด็นความคาดหวังด้านผลกระทบในระดับ ส่วนตัวบุคคลและครอบครัว 3) ประชาชนตำบล สวนผึ้งที่มีศาสนาต่างกัน ยอมรับสมมุติฐานรอง (H1 ) ในประเด็นผลกระทบทางสังคม ด้าน ประชากร 4) ประชาชนตำบลสวนผึ้งที่มีระดับการศึกษาต่างกัน ยอมรับสมมุติฐานรอง (H1 ) ทุกด้าน ยกเว้น ในประเด็นความคาดหวัง ด้านความต้องการในโครงสร้างพื้นฐานของชุมชน 5) ประชาชน ตำบลสวนผึ้งที่มีอาชีพต่างกัน ยอมรับสมมุติฐานรอง (H1 ) ในประเด็นผลกระทบทางสังคม ด้าน ประชากร 6) ประชาชนตำบลสวนผึ้งที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่างกันยอมรับสมมุติฐานรอง (H1 ) ในประเด็นผลกระทบ ด้านประชากร 7) ประชาชนตำบลสวนผึ้งที่มีระยะเวลาที่อาศัยในพื้นที่ต่างกนั ยอมรับสมมุติฐานรอง (H1 ) ในประเด็นผลกระทบทางสังคม ด้านความขัดแย้งเกี่ยวกับชุมชน ท้องถิ่นและผู้ที่มาใหม่ ผลการศึกษาวัตถุประสงค์การวิจัยที่ 2 พบว่า ประเด็นที่มีผลกระทบทางสังคม ระดับ ผลกระทบมาก มี 7 ประเด็น ได้แก่ 1) การท่องเที่ยวก่อให้เกิดการเปลี่ยนเจ้าของที่ดิน การมีสิทธิ์ในที่ดิน และการใช้ประโยชน์ที่ดิน 2) การเปลี่ยนแปลงอาชีพของชุมชน 3) ค่าครองชีพมีความ เหมาะสมแก่ชุมชน 4) การเพิ่มขึ้นของจำ นวนประชากรในสังคมของชุมชน 5) ชุมชนเห็นด้วยที่ ตำบลสวนผึ้งมีการท่องเที่ยว 6) ประชากรจากชุมชนอื่น เข้ามาหางานในแหล่งท่องเที่ยวของชุมชน และ7) เกิดอาชีพและรายได้แก่ชุมชน ผลการศึกษาวัตถุประสงค์การวิจัยที่ 3 ประเด็นความคาดหวังของชุมชน ระดับความ คาดหวังน้อย มี 7 ประเด็น ได้แก่1) ชุมชนคาดหวังให้เกิดการเอาเปรียบกันในชุมชน 2) การขายบริการทางเพศ 1) การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต และค่านิยมของสังคมชุมชน 3) การเปลี่ยนเจ้าของที่ดิน การมีสิทธ์ิในที่ดิน และการใช้ประโยชน์ที่ดิน 4) การเปลี่ยนแปลงอาชีพของชุมชนท้องถิ่น 5) การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรม และคุณค่างานศิลปหตัถกรรม และ 7) ความแตกต่างด้านอายุเพศ เชื้อชาติของชุมชน ประเด็นที่มีผลกระทบมากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบจากผลการวิจัยวัตถุประสงค์ที่ 2 และ 3 ได้แก่การท่องเที่ยวก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอาชีพของชุมชน การเปลี่ยนแปลงเจ้าของที่ดิน การมีสิทธ์ิในที่ดิน และการใช้ประโยชน์ที่ดิน ประชากรจากชุมชนอื่นเข้ามาหางานในแหล่งท่องเที่ยว ของชุมชน การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต และค่านิยมของสังคม การเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรในสังคมของชุมชน ความแตกต่างด้านอายุเพศเชื้อชาติของชุมชน การเอาเปรียบกันในชุมชน ปัญหา การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรม และคุณค่างานศิลปหตัถกรรม ปัญหาการขายบริการทางเพศ สามารถ กำหนดเป็นแนวทาง ได้ดังนี้ 1) การพัฒนาและส่งเสริมด้านประชากร 2) ส่งเสริมการใช้ประโยชน์ ที่ดิน และรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 3) พัฒนาสังคมและชุมชนให้เข้มแข็ง และ 4) ส่งเสริมคุณค่างานศิลปหตัถกรรมและวัฒนธรรมท้องถิ่นให้ยั่งยืน | th |
dc.format.extent | 224 แผ่น | th |
dc.format.mimetype | application/pdf | th |
dc.identifier.other | b194336 | th |
dc.identifier.uri | https://repository.nida.ac.th/handle/662723737/5299 | th |
dc.language.iso | tha | th |
dc.publisher | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ | th |
dc.rights | ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0) | th |
dc.subject.other | การท่องเที่ยว -- ผลกระทบต่อสังคม -- ไทย -- ราชบุรี -- สวนผึ้ง | th |
dc.subject.other | การท่องเที่ยว -- ไทย -- ราชบุรี -- สวนผึ้ง | th |
dc.title | แนวทางการจัดการผลกระทบทางสังคมที่เกิดจากการท่องเที่ยวในตำบลส่วนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี | th |
dc.title.alternative | Guidelines for the social impacts management of tourism in Suanphung Sub-District, Suanphung District, Ratchaburi Province | th |
dc.type | text--thesis--master thesis | th |
mods.genre | Thesis | th |
mods.physicalLocation | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา | th |
thesis.degree.department | คณะการจัดการการท่องเที่ยว | th |
thesis.degree.discipline | การจัดการการท่องเที่ยวแบบบูรณาการ | th |
thesis.degree.grantor | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ | th |
thesis.degree.level | Masters | th |
thesis.degree.name | ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต | th |