การปฏิบัติงานเวชระเบียนผู้ป่วยในกับการเบิกชดเชยค่าบริการทางการแพทย์ : กรณีศึกษาโรงพยาบาลกลาง
dc.contributor.advisor | เดือนเพ็ญ ธีรวรรณวิวัฒน์, อาจารย์ที่ปรึกษา | th |
dc.contributor.author | พิรุฬห์พร แสนแพง | th |
dc.date.accessioned | 2014-05-05T08:55:15Z | |
dc.date.available | 2014-05-05T08:55:15Z | |
dc.date.issued | 2012 | th |
dc.date.issuedBE | 2555 | th |
dc.description | วิทยานิพนธ์ (วท.ม. (สถิติประยุกต์))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2012 | th |
dc.description.abstract | การวิจัยครั้งมีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาแรงจูงใจและความรู้ในการปฏิบัติงานเวช ระเบียนผู้ป่วยในที่เกี่ยวข้องกับการเบิกชดเชยค่าบริการทางการแพทย์เพื่อหาแนวทางในการพัฒนาระบบงานเวชระเบียน โดยใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูล จาก แพทย์เจ้าพนักงานเวชสถิติและเจาหน้าที่ศูนยประกันสุขภาพ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใชสถิติเชิงพรรณาอัน ได้แก่ การแจกแจงความถี่ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และตารางไขว้ (Crosstab) ผลการศึกษาในส่วนของแรงจูงใจและการให้ความสำคัญเกี่ยวกับการปฏิบัติงานเวช ระเบียนผู้ป่วยในพบว่าประมาณร้อยละ 60 ของแพทย์ให้ความสำคัญกับการสรุปคําวินิจฉัยใน ระดับมาก โดยแพทย์ส่วนใหญ่ให้ความสําคัญต่อภาระงาน คือ งานตรวจรักษา งานสรุปคํา วินิจฉัย งานสอนนักศึกษาแพทย์และงานบริหาร ตามลําดับ ร้อยละ 80 ของเจ้าพนักงานเวช สถิติให้ความสําคัญในการให้รหัสโรค-รหัสผ่าตัดและหัตถการ ในระดับมากที่สุด และมี ค่าตอบแทน เป็นแรงจูงใจในการปฏิบัติงานให้รหัสโรค -รหัสผ่าตัด และหัตถการส่วนเจ้าหน้าที่ศูนย์ประกันสุขภาพ ร้อยละ 60 ให้ความสำคัญในการส่งข้อมูลชดเชยค่าบริการทางการแพทย์ในระดับมาก และเห็นว่าการปฏิบัติงานส่งข้อมูลชดเชยค่าบริการทางการแพทย์เป็นหน้าที่ที่ต้องทํา สําหรับความรู้เรื่องการเบิกจ่ายค่าบรการทางการแพทย์ นั้ นแพทย์ส่วนใหญ่มีความรู้ใน ระดับมาก พบว่าข้อที่ตอบถูกมากที่สุดคือ หากทำการสรุปคำวินิจฉัยล่าช้า จะทำให้มีผลกระทบ ต่อรายรับของโรงพยาบาล แต่ก็ยังมแพทย์จํานวนไม่น้อยที่เข้าใจ ผู้ป่วยสิทธิต้นสังกัด ต้องส่งข้อมูลเบิกชดเชยภายใน 45 วัน ซึ่งในความเป็นจริงต้องส่งข้อมูลให้ทันภายใน 30 วันหลัง ผู้ป่วยจําหน่าย เจ้าพนักงานเวชสถิติส่วนใหญ่มีความเข้าใจเกี่ยวกับการเบิกจ่ายค่าบริการ ทางการแพทย์ทุกข้อ ส่วนเจ้าหน้าที่ศูนย์ประกันสุขภาพส่วนใหญ่มีความรู้เรื่องการเบิกจ่าย ค่าบริการทางการแพทย์ในระดับมาก อย่างไรก็ดีกลุ่มที่มีความรู้เรื่องการบิกจ่ายค่าบริการทางการแพทย์มากที่สุดคือ เจ้าพนักงานเวชสถิติรองลงมาคือ เจ้าหน้าที่ศูนย์ประกันสุขภาพ | th |
dc.format.extent | 112 แผ่น ; 30 ซม. | th |
dc.format.mimetype | application/pdf | th |
dc.identifier.doi | 10.14457/NIDA.the.2012.15 | |
dc.identifier.uri | http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/489 | th |
dc.language.iso | tha | th |
dc.publisher | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ | th |
dc.rights | ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0) | th |
dc.subject.lcc | RA 976 พ39 2012 | th |
dc.subject.other | เวชระเบียน | th |
dc.subject.other | สารสนเทศทางการแพทย์ | th |
dc.title | การปฏิบัติงานเวชระเบียนผู้ป่วยในกับการเบิกชดเชยค่าบริการทางการแพทย์ : กรณีศึกษาโรงพยาบาลกลาง | th |
dc.title.alternative | Operation on medical records of in-patient and the request of money for the compensation of medical services : case study of Bangkok Metropolitan Administration General Hospital | th |
dc.type | text--thesis--master thesis | th |
mods.genre | Thesis | th |
mods.physicalLocation | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา | th |
thesis.degree.department | คณะสถิติประยุกต์ | th |
thesis.degree.discipline | สถิติประยุกต์ | th |
thesis.degree.grantor | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ | th |
thesis.degree.level | Masters | th |
thesis.degree.name | วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (สถิติประยุกต์) | th |
Files
Original bundle
1 - 1 of 1
- Name:
- nida-ths-b176364.pdf
- Size:
- 2.72 MB
- Format:
- Adobe Portable Document Format
- Description:
- Full Text