ปัจจัยการสื่อสารการตลาดของร้านกาแฟ SPECIALTY กับรูปแบบการดำเนินชีวิต การเปิดรับสื่อ พฤติกรรมการใช้บริการและทัศนคติของกลุ่มผู้บริโภคเจเนอเรชั่นวาย
Files
Publisher
Issued Date
2015
Issued Date (B.E.)
2558
Available Date
Copyright Date
Resource Type
Series
Edition
Language
tha
File Type
application/pdf
No. of Pages/File Size
211 แผ่น
ISBN
ISSN
eISSN
DOI
Other identifier(s)
b190082
Identifier(s)
Access Rights
Access Status
Rights
ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
Rights Holder(s)
Physical Location
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา
Bibliographic Citation
Citation
เอกยุทธ ภมรกูล (2015). ปัจจัยการสื่อสารการตลาดของร้านกาแฟ SPECIALTY กับรูปแบบการดำเนินชีวิต การเปิดรับสื่อ พฤติกรรมการใช้บริการและทัศนคติของกลุ่มผู้บริโภคเจเนอเรชั่นวาย. Retrieved from: http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/4729.
Title
ปัจจัยการสื่อสารการตลาดของร้านกาแฟ SPECIALTY กับรูปแบบการดำเนินชีวิต การเปิดรับสื่อ พฤติกรรมการใช้บริการและทัศนคติของกลุ่มผู้บริโภคเจเนอเรชั่นวาย
Alternative Title(s)
Marketing communication of specialty coffee shop with lifestyle, media exposure, behavior and attitude of generation Y consumers
Author(s)
Advisor(s)
Editor(s)
item.page.dc.contrubutor.advisor
Advisor's email
Contributor(s)
Contributor(s)
Abstract
งานวิจัยชิ้นนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาปัจจัยการสื่อสารการตลาดของร้านกาแฟ Specialty
กับรูปแบบการดำเนินชีวิต การเปิดรับสื่อ พฤติกรรมการใช้บริการ และทัศนคติของกลุ่มผู้บริโภคเจเนอเรชั่นวาย ซึ่งเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ โดยงานวิจัยเชิงคุณภาพ ศึกษาปัจจัยการสื่อสารการตลาดของร้านกาแฟ Specialty ผู้วิจัยใช้วิธีการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ประกอบการหรือผู้จัดการร้านกาแฟ Specialty ในเขตกรุงเทพมหานคร ทั้งหมด 3 ร้าน ดังต่อไปนี้ 1) ร้าน One Ounce For Onion 2) ร้าน Amatissimo Caffe 3) ร้าน Ink & Lion นอกจากนียั้งใช้การสังเกตการณ์ของผู้วิจัยในการศึกษาสภาพแวดล้อม ผลการศึกษาพบว่า ผู้ประกอบการมีความชอบและมีความรู้ความเข้าใจในกาแฟ เมล็ดกาแฟที่นำมาใช้มีการคัดสรรเป็นอย่างดี รูปแบบร้านกาแฟ Specialty มีลักษณะ Stand-Alone ที่มีตัง้ แต่ขนาดใหญ่ไปจนถึงขนาดเล็ก ใช้หลักส่วนประสมทางการตลาด (4P) ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ ราคา สถานที่ และการส่งเสริมทางการตลาด
ด้านการวิจัยเชิงปริมาณ ผู้วิจัยทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่างที่อยู่ในเกณฑ์ของกลุ่มเจเนอเรชั่น วาย ที่มีอายุระหว่าง 18-35 ปี ซึ่งใช้บริการหรือเคยใช้บริการร้านกาแฟ Specialty จำนวน 400 คน เพื่อวัดรูปแบบการดำเนินชีวิต การเปิดรับสื่อ พฤติกรรมการใช้บริการ และทัศนคติ จากผลการวิจัยพบว่ารูปแบบการดำเนินชีวิตของกลุ่มตัวอย่างแบ่งออกได้เป็น 12 กลุ่ม มีการเปิดรับสื่อ Facebook เป็นจำนวนมากที่สุด วัตถุประสงค์ของการเปิดรับสื่อเพื่อต้องการหาข้อมูล พฤติกรรมในการไปใช้บริการร้านกาแฟเพื่อนั่งพักผ่อนมากที่สุด ความถี่ในการใช้บริการ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ บุคคลที่ไปด้วยคือ เพื่อน นิยมเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล ส่วนทัศนคติของผู้บริโภคด้านการบริการและการส่งเสริมการตลาดมีอยู่ในระดับมากที่สุด และด้านผลิตภัณฑ์คือด้านที่มีค่าเฉลี่ยที่ต่ำสุด โดยผลจากการทดสอบสมมติฐานพบว่า รูปแบบการดำเนินชีวิตของกลุ่มผู้บริโภคเจเนอเรชั่นวายมีความสัมพันธ์กับการเปิดรับสื่อ การเปิดรับสื่อมีความสัมพันธ์กับทัศนคติและพฤติกรรมการใช้บริการ และทัศนคติมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการใช้บริการโดยมีความสัมพันธ์เชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.001 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐาน
ด้านการวิจัยเชิงปริมาณ ผู้วิจัยทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่างที่อยู่ในเกณฑ์ของกลุ่มเจเนอเรชั่น วาย ที่มีอายุระหว่าง 18-35 ปี ซึ่งใช้บริการหรือเคยใช้บริการร้านกาแฟ Specialty จำนวน 400 คน เพื่อวัดรูปแบบการดำเนินชีวิต การเปิดรับสื่อ พฤติกรรมการใช้บริการ และทัศนคติ จากผลการวิจัยพบว่ารูปแบบการดำเนินชีวิตของกลุ่มตัวอย่างแบ่งออกได้เป็น 12 กลุ่ม มีการเปิดรับสื่อ Facebook เป็นจำนวนมากที่สุด วัตถุประสงค์ของการเปิดรับสื่อเพื่อต้องการหาข้อมูล พฤติกรรมในการไปใช้บริการร้านกาแฟเพื่อนั่งพักผ่อนมากที่สุด ความถี่ในการใช้บริการ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ บุคคลที่ไปด้วยคือ เพื่อน นิยมเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล ส่วนทัศนคติของผู้บริโภคด้านการบริการและการส่งเสริมการตลาดมีอยู่ในระดับมากที่สุด และด้านผลิตภัณฑ์คือด้านที่มีค่าเฉลี่ยที่ต่ำสุด โดยผลจากการทดสอบสมมติฐานพบว่า รูปแบบการดำเนินชีวิตของกลุ่มผู้บริโภคเจเนอเรชั่นวายมีความสัมพันธ์กับการเปิดรับสื่อ การเปิดรับสื่อมีความสัมพันธ์กับทัศนคติและพฤติกรรมการใช้บริการ และทัศนคติมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการใช้บริการโดยมีความสัมพันธ์เชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.001 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐาน
Table of contents
Description
วิทยานิพนธ์ (ศศ.ม. (นิเทศศาสตร์และนวัตกรรม))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2558