การบินพาณิชย์ : การศึกษาวิเคราะห์ปัญหาการจัดระเบียบราชการ / สืบ ทรรพมัทย์

Abstract

การบินพลเรือนมีลักษณะเป็นกิจการทางการเมืองโดยมีการดำเนินงานเกี่ยวข้องอยู่กับต่างประเทศ มีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ทางการค้าในลักษณะตอบแทนกันระหว่างประเทศ ฉะนั้นการบินพลเรือนไม่ควรรวมหรือขึ้นอยู่กับการบินทหาร การจัดระเบียบราชการงานบินพลเรือนของไทยแยกออกเป็นกรมการบินพาณิชย์ กระทรวงคมนาคม และกรมการบินพลเรือน กองทัพอากาศ นอกจากจะก่อให้เกิดปัญหาข้อยุ่งยากหลายประการดังผู้เขียนได้กล่าวไว้ในวิทยานิพนธ์แล้ว ยังขัดต่อเจตน์จำนงของรัฐบาลที่มีนโยบายให้แยกการบินพลเรือนออกจากการบินทหาร และยังเป็นการจัดโครงร่างของหน่วยงานที่ไม่ประสานกัน ทำให้เกิดความรู้สึกเป็นอิสระขึ้นในหน่วยงานแต่ละฝ่าย โดยคิดว่างานของตนสำคัญกว่างานของหน่วยอื่น จึงมุ่งที่จะทำงานของตนโดยไม่สนใจต่องานของผู้อื่น ผู้เขียนเห็นว่าการแก้ปัญหาเหล่านี้ จะต้องมีการพิจารณาจัดระเบียบราชการงานการบินพลเรือนของไทยให้รวมอยู่ในหน่วยเดียวกัน ภายใต้บังคับบัญชาของบุคคลเดียวกัน กับยกเลิกคณะกรรมการการบินพลเรือนเสียด้วยเหตุผลที่ผู้เขียนกล่าวไว้ละเอียดในวิทยานิพนธ์

การจัดระเบียบราชการงานการบินพลเรือนของไทยเป็นส่วนราชการระดับกรมเพียงส่วนเดียวนี้จะทำได้โดยการรวมงานควบคุมและให้บริการเดินอากาศ และงานควบคุมการขนส่งทางอากาศที่ดำเนินอยู่ ณ สนามบินดอนเมืองให้มาขึ้นอยู่ในกรมการบินพาณิชย์ โดยจัดส่วนราชการดำเนินการและรับผิดชอบขึ้นในระดับกอง 1 กอง และจะต้องอาศัยความร่วมมือจากกรมการบินพลเรือนช่วยฝึกอบรมการปฏิบัติงานในหน้าที่ให้แก่เจ้าหน้าที่ของกรมการบินพาณิชย์ นอกจากนี้ยังต้องอาศัยการมอบโอนสถานที่ เครื่องมือ และอุปกรณ์สำหรับการดำเนินงานนี้ให้ด้วย สำหรับปัญหาการกำหนดความเร่งด่วนในความต้องการและมาตรการต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการบินของทหาร ส่วนราชการอื่นในพื้นที่ที่จะให้อยู่ในความรับผิดชอบและดำเนินการของฝ่ายพลเรือน ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับวิธีการปฏิบัติที่ได้วางไว้ หรือปัญหาข้อขัดแย้งอื่น ๆ ในด้านการเดินอากาศและในด้านการขนส่งทางอากาศก็อาจแก้ไขได้โดยจัดหน่วยกำหนดนโยบายในด้านการบินในรูปคณะกรรมการขึ้น มีอำนาจสั่งการบังคับบัญชาได้ทุกส่วนราชการ มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมซึ่งเป็นผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติเดินอากาศ และผู้บัญชาการทหารอากาศเป็นรองประธานทั้งสองนาย.