The effects of knowledge management on employee performance
Issued Date
2023
Issued Date (B.E.)
2566
Available Date
Copyright Date
Resource Type
Series
Edition
Language
eng
File Type
application/pdf
No. of Pages/File Size
ISBN
ISSN
eISSN
DOI
Other identifier(s)
Identifier(s)
Access Rights
Access Status
Rights
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
Rights Holder(s)
Physical Location
National Institute of Development Administration. Library and Information Center
Bibliographic Citation
Citation
Kanokwan Srisunthorn (2023). The effects of knowledge management on employee performance. Retrieved from: https://repository.nida.ac.th/handle/662723737/6749.
Title
The effects of knowledge management on employee performance
Alternative Title(s)
ผลกระทบของการจัดการความรู้ ที่มีต่อผลการปฏิบัติงานของพนักงาน:
กรณีศึกษารัฐวิสาหกิจไทยด้านพลังงานไฟฟ้า
Author(s)
Advisor(s)
Editor(s)
item.page.dc.contrubutor.advisor
Advisor's email
Contributor(s)
Contributor(s)
Abstract
The objective of this study is to develop a model for the effects of knowledge management on employee performance and to test the relationship of the variables, transformational leadership, knowledge management process, and employee competency effecting employee performance: Cases of Thai State Enterprises in the Electricity Sector. The conceptual framework uses the concept of Resource Base View.
This research study is a mixed research. This is a research that uses both quantitative and qualitative methods together, to find answers to the research hypotheses. The population used in the study was the personnel of Thai state enterprises in the electricity sector, comprising the Electricity Generating Authority of Thailand, Provincial Electricity Authority, and Metropolitan Electricity Authority. The study population comprised personnel under the Central Office totaling 12,615 persons. The study used electronic questionnaires as a tool to collect data until a total of 1,213 responses were obtained, and used correlation test statistics and Multiple Regression Analysis in the inferential statistical test. In addition, to support the results of the quantitative research, qualitative research through in-depth interviews was used as a tool to describe the results in detail.
The results of the quantitative research found that the relationship of the variables was consistent according to the conceptual framework and the research hypothesis. On transformational leadership, there was a high level of positive correlation with employee performance. Transformational leadership had a moderately positive correlation with employee competency. The knowledge management process had a relatively high positive correlation with employee performance. Employee competency was highly positively correlated with employee performance. Transformational leadership was positively correlated with employee performance through the Partial Mediator employee competency variable. Transformational leadership showed a positive correlation to employee performance through the partial mediator knowledge management process using qualitative data obtained from interviews. The quantitative research results were supported by qualitative data.
The results of the quantitative study found that factors support correlation with employees’ good performance, opportunity, empathy, and morale, and help them get mentoring, trust, and involvement in introducing new ideas, as well as seeing the value and importance of work from supervisors or colleagues when they have a leader with good policy and vision, good welfare and there is promotion for the development of people's competency within the organization. In addition, the personnel must be committed to self-development. The success factor of knowledge management in organizations comes from the commitment of the top leaders, having guidelines that are consistent with government policy and state enterprise assessment, as well as emphasizing knowledge management processes as the basis of innovation. There is an exchange of knowledge and having access to knowledge through information technology. Future research studies should be “The effects of knowledge management on employee innovation”.
วัตถุประสงค์ในการศึกษาวิจัยในครั้งนี้ คือ การพัฒนาตัวแบบผลกระทบของการจัดการความรู้ ที่มีต่อผลการปฏิบัติงานของพนักงาน และเพื่อทดสอบความสัมพันธ์ของตัวแปร ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง กระบวนการจัดการความรู้ สมรรถนะพนักงาน ที่มีต่อผลการปฏิบัติงานของพนักงาน กรณีศึกษารัฐวิสาหกิจไทยด้านพลังงานไฟฟ้า กรอบแนวคิดการวิจัยใช้แนวคิดฐานทรัพยากร การศึกษาวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน เป็นการวิจัยที่ใช้วิธีทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพร่วมกัน เพื่อหาคำตอบของสมมติฐานการวิจัย ประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือ บุคลากรรัฐวิสาหกิจไทยด้านพลังงานไฟฟ้า ประกอบด้วย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้านครหลวง กลุ่มประชากรที่ศึกษา คือบุคลากรที่สังกัดสำนักงานกลาง จำนวน 12,615 ราย ใช้แบบสอบถามทางอิเลคทรอนิคส์เป็นเครื่องมือที่ในการเก็บรวบรวมข้อมูล จนได้รับการตอบกลับมาเป็นจำนวน ทั้งสิ้น 1,213 ราย และใช้สถิติการทดสอบสหสัมพันธ์ (Correlation) และการวิเคราะห์สมการถดถอยเชิงพหุคูณ (Multiple Regression Analysis) ในการทดสอบสถิติเชิงอนุมาน นอกจากนี้เพื่อการสนับสนุนผลการศึกษาการวิจัยเชิงปริมาณ การวิจัยเชิงคุณภาพโดยการสัมภาษณ์เชิงลึกได้นำมาใช้เป็นเครื่องมือหนึ่งในการอธิบายรายละเอียดผลการศึกษา ผลการวิจัยเชิงปริมาณ พบว่า ความสัมพันธ์ของตัวแปรมีความสอดคล้องสัมพันธ์กันตามกรอบแนวคิดและเป็นไปตามสมมติฐานการวิจัย โดยภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง มีความสัมพันธ์เชิงบวกต่อผลการปฏิบัติงานของพนักงานอยู่ในระดับค่อนข้างสูง ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงมีความสัมพันธ์เชิงบวกต่อสมรรถนะของพนักงานอยู่ในระดับปานกลาง ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับกระบวนการจัดการความรู้อยู่ในระดับค่อนข้างสูง กระบวนการจัดการความรู้มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับผลการปฏิบัติงานของพนักงานอยู่ในระดับค่อนข้างสูง สมรรถนะของพนักงานมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับผลการปฏิบัติงานของพนักงานอยู่ในระดับสูง ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงมีความสัมพันธ์เชิงบวกต่อผลการปฏิบัติงานของพนักงานผ่านตัวแปรคั่นกลางสมรรถนะของพนักงานแบบPartial Mediator และภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง มีความสัมพันธ์เชิงบวกต่อผลการปฏิบัติงานผ่านตัวแปรคั่นกลาง กระบวนการจัดการความรู้แบบ Partial Mediator สำหรับข้อมูลเชิงคุณภาพที่ได้จากการสัมภาษณ์ พบว่ามีการสนับสนุนผลการวิจัยเชิงปริมาณ ผลการศึกษาเชิงคุณภาพพบว่า ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อผลการปฏิบัติงานที่ดี คือ การได้รับโอกาส การเอาใจใส่ การสร้างขวัญกำลังใจ ได้รับคำปรึกษา ความไว้วางใจ มีส่วนร่วมนำเสนอแนวคิดใหม่ๆ อีกทั้งการมองเห็นคุณค่าและความสำคัญของงานจากผู้บังคับบัญชาหรือเพื่อนร่วมงาน มีผู้นำที่มีนโยบายและวิสัยทัศน์ที่ดี สวัสดิการที่ดี มีการส่งเสริมการพัฒนาสมรรถนะคนในองค์การ อีกทั้งบุคลากรมุ่งมั่นพัฒนาตนเอง สำหรับปัจจัยแห่งความสำเร็จของการจัดการความรู้ในองค์การมาจากนโยบายที่ความมุ่งมั่นของผู้นำระดับสูง การมีแนวทางปฏิบัติที่สอดคล้องกับหลักนโยบายรัฐบาลและการประเมินรัฐวิสาหกิจ พร้อมทั้งเน้นกระบวนการจัดการความรู้เป็นฐานของนวัตกรรม มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และมีการเข้าถึงความรู้ผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ สำหรับการศึกษาวิจัยในอนาคตควรเป็นหัวข้อการจัดการความรู้ที่ส่งผลต่อการสร้างนวัตกรรมของพนักงาน
วัตถุประสงค์ในการศึกษาวิจัยในครั้งนี้ คือ การพัฒนาตัวแบบผลกระทบของการจัดการความรู้ ที่มีต่อผลการปฏิบัติงานของพนักงาน และเพื่อทดสอบความสัมพันธ์ของตัวแปร ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง กระบวนการจัดการความรู้ สมรรถนะพนักงาน ที่มีต่อผลการปฏิบัติงานของพนักงาน กรณีศึกษารัฐวิสาหกิจไทยด้านพลังงานไฟฟ้า กรอบแนวคิดการวิจัยใช้แนวคิดฐานทรัพยากร การศึกษาวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน เป็นการวิจัยที่ใช้วิธีทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพร่วมกัน เพื่อหาคำตอบของสมมติฐานการวิจัย ประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือ บุคลากรรัฐวิสาหกิจไทยด้านพลังงานไฟฟ้า ประกอบด้วย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้านครหลวง กลุ่มประชากรที่ศึกษา คือบุคลากรที่สังกัดสำนักงานกลาง จำนวน 12,615 ราย ใช้แบบสอบถามทางอิเลคทรอนิคส์เป็นเครื่องมือที่ในการเก็บรวบรวมข้อมูล จนได้รับการตอบกลับมาเป็นจำนวน ทั้งสิ้น 1,213 ราย และใช้สถิติการทดสอบสหสัมพันธ์ (Correlation) และการวิเคราะห์สมการถดถอยเชิงพหุคูณ (Multiple Regression Analysis) ในการทดสอบสถิติเชิงอนุมาน นอกจากนี้เพื่อการสนับสนุนผลการศึกษาการวิจัยเชิงปริมาณ การวิจัยเชิงคุณภาพโดยการสัมภาษณ์เชิงลึกได้นำมาใช้เป็นเครื่องมือหนึ่งในการอธิบายรายละเอียดผลการศึกษา ผลการวิจัยเชิงปริมาณ พบว่า ความสัมพันธ์ของตัวแปรมีความสอดคล้องสัมพันธ์กันตามกรอบแนวคิดและเป็นไปตามสมมติฐานการวิจัย โดยภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง มีความสัมพันธ์เชิงบวกต่อผลการปฏิบัติงานของพนักงานอยู่ในระดับค่อนข้างสูง ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงมีความสัมพันธ์เชิงบวกต่อสมรรถนะของพนักงานอยู่ในระดับปานกลาง ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับกระบวนการจัดการความรู้อยู่ในระดับค่อนข้างสูง กระบวนการจัดการความรู้มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับผลการปฏิบัติงานของพนักงานอยู่ในระดับค่อนข้างสูง สมรรถนะของพนักงานมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับผลการปฏิบัติงานของพนักงานอยู่ในระดับสูง ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงมีความสัมพันธ์เชิงบวกต่อผลการปฏิบัติงานของพนักงานผ่านตัวแปรคั่นกลางสมรรถนะของพนักงานแบบPartial Mediator และภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง มีความสัมพันธ์เชิงบวกต่อผลการปฏิบัติงานผ่านตัวแปรคั่นกลาง กระบวนการจัดการความรู้แบบ Partial Mediator สำหรับข้อมูลเชิงคุณภาพที่ได้จากการสัมภาษณ์ พบว่ามีการสนับสนุนผลการวิจัยเชิงปริมาณ ผลการศึกษาเชิงคุณภาพพบว่า ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อผลการปฏิบัติงานที่ดี คือ การได้รับโอกาส การเอาใจใส่ การสร้างขวัญกำลังใจ ได้รับคำปรึกษา ความไว้วางใจ มีส่วนร่วมนำเสนอแนวคิดใหม่ๆ อีกทั้งการมองเห็นคุณค่าและความสำคัญของงานจากผู้บังคับบัญชาหรือเพื่อนร่วมงาน มีผู้นำที่มีนโยบายและวิสัยทัศน์ที่ดี สวัสดิการที่ดี มีการส่งเสริมการพัฒนาสมรรถนะคนในองค์การ อีกทั้งบุคลากรมุ่งมั่นพัฒนาตนเอง สำหรับปัจจัยแห่งความสำเร็จของการจัดการความรู้ในองค์การมาจากนโยบายที่ความมุ่งมั่นของผู้นำระดับสูง การมีแนวทางปฏิบัติที่สอดคล้องกับหลักนโยบายรัฐบาลและการประเมินรัฐวิสาหกิจ พร้อมทั้งเน้นกระบวนการจัดการความรู้เป็นฐานของนวัตกรรม มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และมีการเข้าถึงความรู้ผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ สำหรับการศึกษาวิจัยในอนาคตควรเป็นหัวข้อการจัดการความรู้ที่ส่งผลต่อการสร้างนวัตกรรมของพนักงาน