รายงานกรณีศึกษาการจัดทำกรอบความยั่งยืน ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.ที.พี.รีไซเคิล (SME ธุรกิจรีไซเคิล)
Publisher
Issued Date
2024
Issued Date (B.E.)
2567
Available Date
Copyright Date
Resource Type
Series
Edition
Language
tha
File Type
application/pdf
No. of Pages/File Size
3 แผ่น
ISBN
ISSN
eISSN
DOI
Other identifier(s)
Identifier(s)
Access Rights
Access Status
Rights
ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบแสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
Rights Holder(s)
Physical Location
Bibliographic Citation
Citation
สุเมธ แววนิลานนท์ (2024). รายงานกรณีศึกษาการจัดทำกรอบความยั่งยืน ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.ที.พี.รีไซเคิล (SME ธุรกิจรีไซเคิล). Retrieved from: https://repository.nida.ac.th/handle/123456789/7056.
Title
รายงานกรณีศึกษาการจัดทำกรอบความยั่งยืน ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.ที.พี.รีไซเคิล (SME ธุรกิจรีไซเคิล)
Alternative Title(s)
Author(s)
Advisor(s)
Editor(s)
item.page.dc.contrubutor.advisor
Advisor's email
Contributor(s)
Contributor(s)
Abstract
SMEs มีลักษณะเฉพาะหรือข้อจำกัดที่เป็นประเด็นในการพัฒนาสู่ความยั่งยืน เช่น ความรู้ เงินทุน และทรัพยากรที่จำกัด ธุรกิจรีไซเคิลเป็นองค์ประกอบสำคัญใน Circular Economy ซึ่งต้องดำเนินกิจกรรมอย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้องเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบเชิงลบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรมการผลิตมีแนวโน้มพัฒนาสู่ความยั่งยืน ทำให้ห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ต้องปรับตัวเพื่อสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน องค์กรในธุรกิจรีไซเคิลจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อความยั่งยืน ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในอนาคต และสร้างผลกระทบเชิงบวก (Positive Impact) ต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
การศึกษานี้เป็นกรณีศึกษาขององค์กรขนาดเล็กในจังหวัดชลบุรีผลการศึกษามาจากการทบทวนเอกสาร สำรวจพื้นที่ และกระบวนการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย วิธีการศึกษาประกอบด้วยการทบทวนงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง การวิเคราะห์ผลการดำเนินงานขององค์กร การสัมภาษณ์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแบบเจาะจง และการสังเกตการปฏิบัติงาน
ผลการศึกษา
1. ความท้าทายต่อความยั่งยืนของ SMEs พบว่ามีอุปสรรคสำคัญ ได้แก่ การขาดความรู้และเงินทุน ในการดำเนินงานด้านความยั่งยืน โดยเฉพาะความเข้าใจในแนวทางที่เหมาะสมต่อองค์กร
2. ความท้าทายต่อธุรกิจรีไซเคิล พบว่าปัญหาหลัก ได้แก่ การขาดแคลนแรงงานที่มีคุณภาพ และปัจจัยภายนอกด้านเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังมีปัญหาความปลอดภัยในการทำงาน การแข่งขันในธุรกิจ และการบริหารต้นทุนเชื้อเพลิงที่ส่งผลต่อกำไร โดยบุคลากรยังขาดความเข้าใจในธุรกิจที่ดำเนินงานบนพื้นฐานความยั่งยืน
3. กรอบแนวคิดและมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง การศึกษาพบว่ากรอบแนวคิดและมาตรฐานด้านความยั่งยืนมาจากหลายแหล่ง ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ โดยมาตรฐานที่องค์กรใหญ่ใช้กันมากที่สุดคือ GRI สำหรับกรณีศึกษานี้เนื่องจากเป็นธุรกิจเกี่ยวกับการจัดการของเสียจึงใช้มาตรฐาน SASB (Industrial Standard) และ ISO 59010 เป็นแนวทางในการกำหนดประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน (Material Topics) และการนำเศรษฐกิจหมุนเวียนมาปรับใช้ในองค์กร ทำให้เกิดกรอบแนวคิดในการศึกษา ตามแผนภาพ
ภาพกรอบแนวคิดในการศึกษา การวางแผนกระบวนการพัฒนาความยั่งยืนองค์กรโดยใช้หลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน
4. การวิเคราะห์และกำหนดกลยุทธ์ความยั่งยืน
จากการวิเคราะห์ TOWS Matrix พบว่าองค์กรควรมุ่งเน้นกลยุทธ์ “การสร้างอนาคตธุรกิจบนเศรษฐกิจหมุนเวียนควบคู่กับการลดความเสี่ยงในปัจจุบัน” โดยกำหนดเป้าประสงค์เป็น “ปลายทางการรีไซเคิลที่ยั่งยืน”และวิสัยทัศน์คือ “เปลี่ยนบทบาทจากผู้คัดแยกของเสียสู่การเป็นผู้แปรรูปของเสียให้เป็นวัตถุดิบหรือสินค้า”
พบว่ามีประเด็นที่ศักยภาพในการดำเนินงานด้านความยั่งยืน ดังนี้
• Fleet Fuel Management
• Recycling & Resource Recovery
• ความสามารถของพนักงาน
• ด้านสุขภาพ ความปลอดภัยในการทำงาน
• ด้านเทคโนโลยี Environment friendly technology
เสนอ 3 กลยุทธ์ โดยแบ่งเป็น 2 ระยะคือ ระยะสั้น 1-3 ปี และ ระยะยาว 3-10 ปี
กลยุทธ์ที่ 1 เศรษฐกิจหมุนเวียน ตามหลักการลดความเข้มข้นที่ในการดึงทรัพยากรจากโลก โดยการนำวัสดุมาหมุนวน ตาม ISO 59010 เศรษฐกิจหมุนเวียน – ข้อแนะนํำในการเปลี่ยนผ่านรูปแบบธุรกิจและเครือข่ายคุณค่า ได้ให้คำแนะนำว่าการปรับ Value chain เป็น Value network
กลยุทธ์ที่ 2 ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตามหลักการลดความเข้มข้นการดึงทรัพยากรจากโลก
กลยุทธ์ที่ 3 ทุกคนปลอดภัย (Nobody get hurt) ตามหลักการลดการขัดขวางการเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน
เพื่อทำให้เห็นเป็นรูปธรรมจึงกำหนดแผนงานการดำเนินงานระยะสั้น1-3ปี ตามแนวทางขั้นตอนการนำเศรษฐกิจหมุนเวียนไปใช้องค์กร ตาม มตช. 2-2562 ในขั้น 1-5 จาก 8 ขั้นตอน ขั้น 6-8 อยู่นอกขอบเขตการศึกษาสรุปขั้น 1-5 ดังนี้
การสร้างแนวคิด (Idea generation) โดยการพิจารณาสามารถตอบประเด็น Materiality ที่ได้ประเมินไว้ ทั้ง 5 เรื่องได้ ซึ่งสามารถกำหนดโครงการได้ 5 โครงการ
ความเป็นไปได้ (Feasibility) ทางด้านเทคนิคและการตลาดทั้ง 5 โครงการพบว่าในทางเทคนิคโครงการเป็นไปได้ แต่ในทางปฏิบัติจำเป็นต้องสร้างความสามารถในทำกิจกรรมนั้น ๆ ทั้งนี้ผู้บริหารเลือกโครงงานที่ 1 การออกแบบถัง Roll off แบบเบาให้ดำเนินขั้นที่ 5 เหตุผลทางธุรกิจ ความเป็นไปได้ (Business Case) ต่อไป
การประเมิน Business Case โครงงานที่ 1 การออกแบบถัง Roll-off น้ำหนักเบา – เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งและลดการใช้เชื้อเพลิง พบว่าโครงการนี้มี ROI เท่ากับ 2.58 และสามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้ 771.19 ตัน CO₂e ในระยะเวลา 5 ปี อย่างไรก็ตามควรทดสอบต้นแบบ เพื่อทวนสอบผลที่คาดว่าจะลดน้ำหนักได้ 20% และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานขึ้น 10%
สรุป การศึกษาพบว่า กรอบความคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนเป็นแนวทางที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริงในธุรกิจรีไซเคิล กรอบแนวทางการพัฒนากิจกรรมขององค์กรควรศึกษาความเป็นไปได้และเหตุผลทางธุรกิจก่อนดำเนินโครงการเต็มรูปแบบ จากการวิเคราะห์พบว่า โครงการออกแบบถัง Roll-off แบบเบาเป็นแนวทางที่สามารถนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ โดยมีผลกระทบเชิงบวกทั้งในด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม เช่น การสนับสนุนงานวิจัยและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
Table of contents
Description
การค้นคว้าอิสระ คณะบริหารการพัฒนาสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2567