ปัญหาการบริหารงานจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในส่วนกลาง
Publisher
Issued Date
1968
Issued Date (B.E.)
2511
Available Date
Copyright Date
Resource Type
Series
Edition
Language
tha
File Type
application/pdf
No. of Pages/File Size
163 แผ่น
ISBN
ISSN
eISSN
DOI
Other identifier(s)
Identifier(s)
Access Rights
Access Status
Rights
ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
Rights Holder(s)
Physical Location
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา
Bibliographic Citation
Citation
สุจินต์ เจริญยิ่ง (1968). ปัญหาการบริหารงานจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในส่วนกลาง. Retrieved from: http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/1157.
Title
ปัญหาการบริหารงานจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในส่วนกลาง
Alternative Title(s)
Author(s)
Advisor(s)
Editor(s)
item.page.dc.contrubutor.advisor
Advisor's email
Contributor(s)
Contributor(s)
Abstract
ผู้เขียนมุ่งศึกษางานการจัดเก็บภาษีเงินได้จากบุคคลธรรมดา ซึ่งเป็นหน้าที่ของกองภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในการควบคุมการจัดเก็บทั่วราชอาณาจักร แต่ผู้เขียนจำกัดศึกษาเฉพาะการบริหารงานในส่วนกลาง โดยเฉพาะการบริหารงานในกองภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเท่านั้น
จากผลการศึกษาปรากฏว่าการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้นมีปัญหาหลายประการสมควรจะได้มีการแก้ไขปรับปรุงหลักการและวิธีการเสียใหม่ ซึ่งผู้เขียนได้ให้ข้อเสนอแนะคือ.-
1. ทางด้านกฎหมายที่ใช้บังคับการจัดเก็บภาษีเงินได้ ควรกำหนดหลักเกณฑ์การหักค่าใช้จ่ายให้เป็นธรรม โดยนำหลักเกณฑ์การหักค่าใช้จ่ายจริงมาใช้แทนที่จะหักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมา ค่าลดหย่อนส่วนตัวผู้มีเงินได้ คู่สมรสและบุตร ควรกำหนดไว้ในประมวลรัษฎากรให้อำนาจอธิบดีหรือรัฐมนตรีพิจารณากำหนดให้เหมาะสมกับภาวะค่าครองชีพ โดยอาศัยดรรชนีราคาสินค้าจำเป็นแก่การดำรงชีวิตเป็นหลัก ควรแก้ไขเรื่องการยกเว้นการเสียภาษีสำหรับรายได้บางประเภท ซึ่งนับว่าเป็นส่วนเกินของทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น วิธีการคำนวณภาษีก็ไม่ควรให้ยากจนเกินไป และควรกำหนดอัตราภาษีเงินได้เสียใหม่
2. ทางด้านการจัดระเบียบบริหาร ควรให้หน่วยหักภาษีเงินได้ในที่จ่ายทำหน้าที่เกี่ยวกับภาษีเกี่ยวกับเงินได้หัก ณ ที่จ่ายให้กว้างขวาง และได้ผลในการจัดเก็บภาษีในส่วนรวม ในกรณีมีการอุทธรณ์การประเมินภาษี ควรมีกฎหมายบัญญัติให้อำนาจพนักงานประเมินว่ามีอำนาจแก้ไขการประเมินเงินได้เพียงใดและในกรณีใดบ้าง เจ้าหน้าที่พิจารณาเรื่องนี้ควรเป็นรูปคณะกรรมการ การตรวจสอบไต่สวนควรวางระเบียบให้กว้างขวางกว่าปัจจุบัน และควรหมุนเวียนเจ้าหน้าที่แผนกอื่นที่มีความรู้ด้านกฎหมายและบัญชีมาตรวจสอบบ้าง การคืนเงินให้ผู้เสียภาษีที่เสียไว้เกินควรปรับปรุงไม่ให้คืนช้าเกินไป ตัดงานที่ไม่จำเป็นออกควรจัดเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน
3. ด้านการจัดองค์การ ควรแก้ไขให้หน่วยงานของกองเดียวกันอยู่ใกล้กัน ควรปรัปรุงวิธีการจัดเก็บแบบแสดงรายการภาษีเงินได้
4. การพัฒนาตัวบุคคล กรมสรรพากรขาดกำลังคนและเครื่องมือ ควรจะได้รับอัตรากำลังเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ควรจะได้จัดให้มีการอบรมข้าราชการทุกระดับชั้นให้ถูกหลักวิชาการ.
5. การพัฒนาทางภาษีอากร ควรมีการนำเอาเครื่องจักรกลมาใช้ในการช่วยจัดเก็บภาษี ควรวางแผนการจัดเก็บภาษีอากรตามเป้าหมายในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ๆ ประมาณ 4-5 ปี โดยจัดทำแผนภาษีอากรให้เกี่ยวโยงถึงแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ และมาตรฐานการครองชีพของประชาชน และควรวางแผนการตรวจสอบภาษีพร้อมกับการจัดเก็บอากร โดยเริ่มตั้งแต่การคัดเลือกแบบและพยายามที่จะนำมาตรวจสอบ การฝึกอบรมและสอดส่องพฤติกรรมของเจ้าพนักงานตรวจสอบ.
จากผลการศึกษาปรากฏว่าการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้นมีปัญหาหลายประการสมควรจะได้มีการแก้ไขปรับปรุงหลักการและวิธีการเสียใหม่ ซึ่งผู้เขียนได้ให้ข้อเสนอแนะคือ.-
1. ทางด้านกฎหมายที่ใช้บังคับการจัดเก็บภาษีเงินได้ ควรกำหนดหลักเกณฑ์การหักค่าใช้จ่ายให้เป็นธรรม โดยนำหลักเกณฑ์การหักค่าใช้จ่ายจริงมาใช้แทนที่จะหักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมา ค่าลดหย่อนส่วนตัวผู้มีเงินได้ คู่สมรสและบุตร ควรกำหนดไว้ในประมวลรัษฎากรให้อำนาจอธิบดีหรือรัฐมนตรีพิจารณากำหนดให้เหมาะสมกับภาวะค่าครองชีพ โดยอาศัยดรรชนีราคาสินค้าจำเป็นแก่การดำรงชีวิตเป็นหลัก ควรแก้ไขเรื่องการยกเว้นการเสียภาษีสำหรับรายได้บางประเภท ซึ่งนับว่าเป็นส่วนเกินของทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น วิธีการคำนวณภาษีก็ไม่ควรให้ยากจนเกินไป และควรกำหนดอัตราภาษีเงินได้เสียใหม่
2. ทางด้านการจัดระเบียบบริหาร ควรให้หน่วยหักภาษีเงินได้ในที่จ่ายทำหน้าที่เกี่ยวกับภาษีเกี่ยวกับเงินได้หัก ณ ที่จ่ายให้กว้างขวาง และได้ผลในการจัดเก็บภาษีในส่วนรวม ในกรณีมีการอุทธรณ์การประเมินภาษี ควรมีกฎหมายบัญญัติให้อำนาจพนักงานประเมินว่ามีอำนาจแก้ไขการประเมินเงินได้เพียงใดและในกรณีใดบ้าง เจ้าหน้าที่พิจารณาเรื่องนี้ควรเป็นรูปคณะกรรมการ การตรวจสอบไต่สวนควรวางระเบียบให้กว้างขวางกว่าปัจจุบัน และควรหมุนเวียนเจ้าหน้าที่แผนกอื่นที่มีความรู้ด้านกฎหมายและบัญชีมาตรวจสอบบ้าง การคืนเงินให้ผู้เสียภาษีที่เสียไว้เกินควรปรับปรุงไม่ให้คืนช้าเกินไป ตัดงานที่ไม่จำเป็นออกควรจัดเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน
3. ด้านการจัดองค์การ ควรแก้ไขให้หน่วยงานของกองเดียวกันอยู่ใกล้กัน ควรปรัปรุงวิธีการจัดเก็บแบบแสดงรายการภาษีเงินได้
4. การพัฒนาตัวบุคคล กรมสรรพากรขาดกำลังคนและเครื่องมือ ควรจะได้รับอัตรากำลังเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ควรจะได้จัดให้มีการอบรมข้าราชการทุกระดับชั้นให้ถูกหลักวิชาการ.
5. การพัฒนาทางภาษีอากร ควรมีการนำเอาเครื่องจักรกลมาใช้ในการช่วยจัดเก็บภาษี ควรวางแผนการจัดเก็บภาษีอากรตามเป้าหมายในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ๆ ประมาณ 4-5 ปี โดยจัดทำแผนภาษีอากรให้เกี่ยวโยงถึงแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ และมาตรฐานการครองชีพของประชาชน และควรวางแผนการตรวจสอบภาษีพร้อมกับการจัดเก็บอากร โดยเริ่มตั้งแต่การคัดเลือกแบบและพยายามที่จะนำมาตรวจสอบ การฝึกอบรมและสอดส่องพฤติกรรมของเจ้าพนักงานตรวจสอบ.
Table of contents
Description
วิทยานิพนธ์ (พบ.ม. (รัฐประศาสนศาสตร์))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2511.