การพัฒนาธุรกิจค้าปลีกผลไม้ ด้วยการปรับปรุงห่วงโซ่คุณค่า

dc.contributor.advisorบุษกร วัชรศรีโรจน์th
dc.contributor.authorสิริเพ็ญ ไทยตรงth
dc.date.accessioned2022-05-25T06:35:06Z
dc.date.available2022-05-25T06:35:06Z
dc.date.issued2017th
dc.date.issuedBE2560th
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาห่วงโซ่คุณค่าและการส่งมอบคุณค่าอันนำไปสู่แนว ทางการสร้างกลยุทธ์ทางการแข่งขัน เชิงได้เปรียบของธุรกิจค้าปลีกผลไม้แบบดั่งเดิม ทำการศึกษา กับผู้ประกอบการร้านค้าปลีกผลไม้แบบดั่งเดิมจำนวน 43คน ใช้แบบสอบถามในการรวบรวม ข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบ ความสัมพันธ์ของห่วงโซ่คุณค่าและการส่งมอบคุณค่าด้วยการวิเคราะห์การถดถอยแบบพหุคูณ (Multiple Regression Analysis) นอกจากนี้ยังได้ศึกษาเพื่อเปรียบเทียบความพึงพอใจดา้นคุณค่าที่ ได้รับระหว่างผู้ใช้บริการร้านค้าปลีกผลไม้แบบดั่งเดิมกับผู้ใช้บริการซูเปอร์มาร์เก็ตระดับกลาง และไฮเอนด์โดยจำแนกตามแนวคิดการส่งมอบคุณค่า ซึ่งแบ่งออกเป็น 7 ด้าน ประกอบด้วย ด้าน ราคา คุณภาพ ความพร้อม ความหลากหลาย การบริการ การเป็นพันธมิตร และตราสินค้า รวมไปถึง การศึกษาหาความสัมพนัธ์ระหวา่งปัจจัยส่วนบุคคลกับประเภทร้านค้าปลีก ทำการศึกษากับผู้ซื้อ ผลไม้สัดที่อาศยัหรือทำงานอยู่ในกรุงเทพมหานครจำนวน 400คน ใช้แบบสอบถามในการรวบรวม ข้อมูล ใช้สถิติเชิงพรรณนาชุดเดียวกับการศึกษาผู้ประกอบการและทดสอบการเปรียบเทียบความ แตกต่างระหว่างตัวแปร 2กลุ่มที่เป็นอิสระต่อกัน (Independent Samples t Test) รวมทั้งทดสอบการ หาความสัมพันธ์โดยวิธี Pearson’s Chi-Squareth
dc.description.abstractผลการศึกษาผู้ประกอบการร้านค้าปลีกผลไม้แบบดั่งเดิมพบว่า ส่วนใหญ่ดำเนินธุรกิจมา 16 -20 ปี มีพนักงาน 1 -3คน และเปิดให้บริการในช่วงเช้าถึงเย็น มีความพึงพอใจในความสามารถ ด้านการบริหารห่วงโซ่คุณค่าโดยรวมอยู่ในระดับกลาง โดยมีความพึงพอใจด้านการผลิต (ปฏิบัติการ) มากที่สุด ในขณะที่มีความพึงพอใจด้านการพัฒนาเทคโนโลยีน้อยที่สุด ในส่วนของ ความพึงพอใจในความสามารถด้านการส่งมอบคุณค่า พบว่าโดยรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับ มากโดยพึงพอใจในการส่งมอบคุณค่าด้านความหลากหลายมากที่สุด ขณะที่การส่งมอบคุณค่าด้าน ราคาได้น้อยที่สุดth
dc.description.abstractผลจากการวิเคราะห์ความสัมพันธ์พบว่ากิจกรรมในห่วงโซ่คุณค่าด้านการบริหาร ทรัพยากรมนุษย์มีความสัมพันธ์กับการส่งมอบคุณค่าด้านคุณภาพในทิศทางเดียวกันอย่างมี นัยสำคัญทางสถิตินอกจากนี้กิจกรรมในห่วงโซ่คุณค่าด้านการขนส่งขาออกมีความสัมพันธ์ใน ทิศทางเดียวกันกับการส่งมอบคุณค่าถึง 4 ด้านอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติประกอบด้วยด้านคุณภาพ ความหลากหลาย การเป็นพันธมิตร และตราผลิตภัณฑ์th
dc.description.abstractด้านผลการศึกษาผู้ใช้บริการ พบว่า ส่วนใหญ่มีอายุ18 - 29 ปี เป็นเพศหญิง ระดับการศึกษา ปริญญาตรี ประกอบอาชีพพนักงานเอกชน มีรายได้เฉลี่ย 20,000 - 30,000 บาทต่อเดือน ซื้อผลไม้ เดือนละ 1 - 2คร้ัง ด้วยจำนวนเงินเฉลี่ยในการซื้อต่ำกว่า 1,000 บาท ซื้อในช่วงเวลา 18.00 - 21.59 นาฬิกา เลือกซื้อจากร้านค้าปลีกผลไม้แบบดั่งเดิม มากกว่าซูเปอร์มาร์เก็ตระดับกลางและไฮเอนด์ ซึ่งผู้ซื้อกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เลือกใช้บริการท็อปส์มาร์เก็ต ส่วนผู้ซื้อในกลุ่มร้านค้าปลีกผลไม้แบบ ดั่งเดิมส่วนมากเลือกซื้อในย่านเยาวราช ผู้ใช้บริการส่วนมากเดินทางโดยรถยนต์และจักรยานยนต์ ส่วนบุคคลและมีวัตถุประสงค์คือซื้อเพื่อรับประทาน ทั้งนี้ผู้ใช้บริการมีความพึงพอใจในคุณค่าที่ ได้รับโดยรวมอยู่ในระดับพอใจมาก โดยพึงพอใจด้านคุณภาพมากที่สุด และพึงพอใจด้านตรา ผลิตภณัฑ์ น้อยที่สุด เมื่อวิเคราะห์เปรียบเทียบหาความแตกต่างด้านความพึงพอใจของผู้ใช้บริการทั้ง 2กลุ่ม พบว่ามีความพึงพอใจแตกต่างกัน ในด้านราคาและความพร้อมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนผลการวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ของปัจจยัส่วนบุคคลและประเภทร้านค้า พบว่าระดับ การศึกษาและช่วงเวลาในการซื้อมีผลต่อการเลือกประเภทร้านค้าปลีกผลไม้อย่างมีนัยสำคัญทาง สถิตth
dc.description.abstractข้อเสนอแนะจากการวิจัยครั้งนี้ที่มีต่อผู้ประกอบการร้านค้าปลีกผลไม้แบบดั่งเดิม ประกอบด้วย 1) ควรมุ่งเพิ่มความสามารถในห่วงโซ่คุณค่าด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์และการ ขนส่งขาออกเนื่องจากจะส่งผลเชิงบวกไปยังการส่งมอบคุณค่าด้านคุณภาพ ความหลากหลาย การ เป็นพันธมิตร และตราผลิตภัณฑ์ 2) ควรปรับปรุงกิจกรรมห่วงโซ่คุณค่าด้านการพฒันาเทคโนโลยี 3) ควรใหค้วามสำคัญด้านราคาและความพร้อมเพื่อรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดไว้ 4) ควรปรับเวลา ทำการให้ครอบคลุมในช่วงเวลา 18.00 -21.59 นาฬิกา เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ผู้ซื้อผลไม้ใช้บริการ มากที่สุด 5) ใช้กลยุทธ์การสร้างความแตกต่าง พร้อมกับให้ความสนใจเรื่องการกำหนดราคาให้ต่ำ กว่าร้านค้าปลีกสมัยใหม่ เพื่อให้ได้มาซึ่งการได้เปรียบทางการแข่งขัน และความยั่งยืนของธุรกิจth
dc.format.extent227 แผ่นth
dc.format.mimetypeapplication/pdfth
dc.identifier.doi10.14457/NIDA.the.2017.173
dc.identifier.otherb201084th
dc.identifier.urihttps://repository.nida.ac.th/handle/662723737/5828th
dc.language.isothath
dc.publisherสถาบันบัณพิตพัฒนบริหารศาสตร์th
dc.rightsผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)th
dc.subjectธุรกิจการค้าปลีกth
dc.subject.otherการค้า -- การพัฒนาth
dc.subject.otherอุตสาหกรรมการค้าปลีกth
dc.titleการพัฒนาธุรกิจค้าปลีกผลไม้ ด้วยการปรับปรุงห่วงโซ่คุณค่าth
dc.title.alternativeDevelopment of Fruit Retail Business by Value Chain Improvementth
dc.typetext--thesis--master thesisth
mods.genreThesisth
mods.physicalLocationสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนาth
thesis.degree.departmentคณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์th
thesis.degree.disciplineเทคโนโลยีการบริหารth
thesis.degree.grantorสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์th
thesis.degree.levelMastersth
thesis.degree.nameวิทยาศาสตรมหาบัณฑิตth

Files

Original bundle

Now showing 1 - 1 of 1
Thumbnail Image
Name:
b201084.pdf
Size:
4.55 MB
Format:
Adobe Portable Document Format
Description:

License bundle

Now showing 1 - 1 of 1
No Thumbnail Available
Name:
license.txt
Size:
1.71 KB
Format:
Item-specific license agreed upon to submission
Description:

Collections