NIDA Wisdom Repository

 

Communities in DSpace

Select a community to browse its collections.

Now showing 1 - 6 of 6
Thumbnail Image

คณะและวิทยาลัย

NIDA Schools and Colleges

Thumbnail Image

สำนักงานอธิการบดี

NIDA Office of the President

Thumbnail Image

ผลงานวิชาการ

NIDA Scholars

Thumbnail Image

หน่วยงาน

NIDA Units

Thumbnail Image

วารสารวิชาการ

NIDA Academic Journals

Thumbnail Image

หนังสืออิเล็กทรอนิกส์

NIDA E-Books

Recent Submissions

Thumbnail Image
Item
รายงานการพัฒนาพื้นที่อย่างยั่งยืน ภาคตะวันออก ปี พ.ศ. 2565
อดิศร์ อิศรางกูร ณ อยุธยา; ปรียานุช ธรรมปิยา; มณฑิรา อูนากูล (กรีน ไลฟ์ พริ้นติ้ง เฮาส์, 2024)
รายงานการพัฒนาพื้นที่อย่างยั่งยืน ภาคตะวันออก จัดทำขึ้นเพื่อติดตามสถานการณ์การพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออกตามแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยรายงานฯ ฉบับที่ 1 ปี พ.ศ. 2564 ได้เจาะลึกเรื่องการบริหารจัดการขยะในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และรายงานฯ ปี พ.ศ. 2565 ฉบับนี้ นำเสนอการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก เนื่องจาก "น้ำ" เป็นทรัพยากรหลักทั้งในการดำรงชีวิตและการพัฒนาเศรษฐกิจ รวมถึงเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาสมดุลทางธรรมชาติ เนื้อหาของรายงานแบ่งออกเป็น 5 บท เริ่มจากบทนำที่ทบทวนการพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออกโดยรวมและผลกระทบจากการพัฒนพื้นที่ในช่วงที่ผ่านมา จากมุมมองของการพัฒนาที่ยั่งยืน เริ่มต้นจากการพัฒนาภาคตะวันออกภายใต้โครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณขายฝั่งทะเลตะวันออก (Eastern Seaboard Development Program: ESB) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2525 มาจนถึงปัจจุบัน ภายใต้โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) ซึ่งในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะประสบความสำเร็จที่เป็นแบบอย่างในการพัฒนาพื้นที่อื่น ๆ ได้ แต่ก็มีปัญหาที่เกิดขึ้นและสั่งสมมาในหลากหลายมิติเช่นกัน
Thumbnail Image
Item
การปรับตัวของอุตสาหกรรมไก่เนื้อเพื่อการส่งออกของไทยต่อกฏหมายด้านสิ่งแวดล้อมของสหภาพยุโรป "สินค้าเกษตรที่มาจากพื้นที่ไม่บุกรุกป่า หรือ EU deforestaton free product (EUDR)"
ภาสกร สาตร์พันธ์; พีรพล เจตโรจนานนท์ (สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2023)
การผลิตสินค้าปศุสัตว์ของประเทศไทยถือเป็นเป็นห่วงโซ่อุปทานที่มีความสำคัญ ก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาลและมีผู้ที่เกี่ยวข้องภายใต้ห่วงโซ่การผลิตนี้เป็นจำนวนมาก ด้วยทิศทางของกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม แห่งสหภาพยุโรป “สินค้าเกษตรที่มาจากพื้นที่ไม่บุกรุกป่า (EU deforestation free product (EUDR))” เปรียบเสมือนกฎกติกาทางการค้าในมุมมองใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมตลอดห่วงโซ่การผลิต
Thumbnail Image
Item
แนวทางการพัฒนาธุรกิจรับซื้อของเก่าตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ในพื้นที่ตำบลท่าข้าม อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา
อรอุมา เงื้อมผา; ณพงศ์ นพเกตุ (สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2023)
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษากระบวนการดำเนินธุรกิจของธุรกิจรับซื้อของเก่าในพื้นที่ตำบลท่าข้าม 2) ศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการพัฒนาธุรกิจรับซื้อของเก่าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนในพื้นที่ตำบลท่าข้าม และ 3) ศึกษาแนวทางการพัฒนาธุรกิจรับซื้อของเก่าตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน การศึกษานี้ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บรวบรวมข้อมูลโดย 1) การศึกษาเอกสารและวิจัยที่เกี่ยวข้อง และ 2) การสัมภาษณ์ และแบบตรวจรายการ เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ด้วย PESTEL Analysis, SWOT Analysis และ TOWS Matrix เพื่อเสนอแนวทางการพัฒนาธุรกิจรับซื้อของเก่าตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน ทีเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ในพื้นที่ตำบลท่าข้าม อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ผลการศึกษาพบว่า การดำเนินธุรกิจรับซื้อของเก่าในพื้นที่ตำบลท่าข้าม มีการดำเนินธุรกิจแบบกิจการครอบครัว เป็นธุรกิจขนาดเล็ก ใช้ระบบเครือญาติในการบริหารจัดการธุรกิจ ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการรับซื้อของเก่าเฉพาะขยะรีไซเคิลเท่านั้นจากครัวเรือน ร้านค้า และสถานประกอบการ ด้านปัจจัยที่มีผลต่อแนวทางการพัฒนาธุรกิจรับซื้อของเก่าตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ได้แก่ 1. ปัจจัยภายในของสถานประกอบการ ประกอบด้วย(1) ปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ประกอบการ ได้แก่ ความรู้ และความตระหนักในการดำเนินธุรกิจรับซื้อของเก่าในการป้องกันผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม และ (2) ปัจจัยในการดำเนินธุรกิจ ได้แก่ ที่ตั้งสถานประกอบการ ด้านการเงิน การบริหารจัดการธุรกิจการสื่อสารกับลูกค้า และ 2. ปัจจัยภายนอกสถานประกอบการ ประกอบด้วย ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และด้านการสนับสนุน สำหรับแนวทางการพัฒนาธุกิจรับซื้อของเก่าตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนในพื้นที่ตำบลท่าข้าม ได้แก่ 1) การพัฒนาระบบฐานข้อมูลกลุ่มธุรกิจรับซื้อของเก่าเพื่อใช้ในการวางแผนการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจรับซื้อของเก่าให้สอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน 2) สนับสนุนการรวมกลุ่มของผู้ประกอบการธุรกิจรับซื้อของเก่าทั้งรายใหญ่และรายย่อยเพื่อเพิ่มความเข้มแข็งโดยการถ่ายทอดองค์ความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกัน รวมทั้ง การพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการธุรกิจรับซื้อของเก่าเพื่อส่งเสริมการดำเนินธุรกิจไม่ให้เกิด ผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยและสิ่งแวดล้อม และ 3) การติดตามตรวจสอบการประกิจการรับซื้อของเก่าของหน่วยงานภาครัฐอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของคนในชุมชนและสิ่งแวดล้อม
Thumbnail Image
Item
ปัจจัยที่มีผลต่อการจัดการขยะมูลฝอยในครัวเรือนของประชาชนกรณีศึกษา ตำบลสามร้อยยอด อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
บุษยมาศ สายน้ำเขียว; ณพงศ์ นพเกตุ (สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2023)
ปัจจัยที่มีผลต่อการจัดการขยะมูลฝอยในครัวเรือนของประชาชนในเขตพื้นที่ ตำบลสามร้อยยอด อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเสนอแนวทางที่เหมาะสมในการดำเนินการจัดการขยะมูลฝอยชุมชนและครัวเรือน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ (Interview) ผู้นำท้องถิ่นชุมชน (กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน) จำนวน 2 คน เจ้าหน้าที่พนักงานเก็บขนขยะมูลฝอย จำนวน 1 คน และประชาชนในพื้นที่ตัวอย่างหมู่บ้านละ 1 ครัวเรือน จำนวน 9 คน และการสำรวจพื้นที่ (Site Survey) บริเวณสถานที่หรือจุดจัดการขยะมูลฝอยของแต่ละหมู่บ้านและครัวเรือน เพื่อให้ทราบลักษณะและขอบเขตของปัญหาต่าง ๆ ที่มีอยู่ในชุมชนหรือท้องถิ่น เพื่อศึกษาหาสาเหตุของแต่ละปัญหา และแนวทางในการปรับปรุงแก้ไข ร่วมกับการวิจัยเอกสาร (Documentary Research) เพื่อนำข้อมูลมาทำการเรียบเรียง วิเคราะห์ สังเคราะห์ และเรียบเรียงเนื้อหาเพื่อหาข้อสรุปเพื่อเป็นแนวทางสำคัญในการจัดการขยะมูลฝอยในครัวเรือนได้อย่างเหมาะสม
Thumbnail Image
Item
การประเมินประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาน้ำเสียชุมชมตามแผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด ภายใต้พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535
เฉลิมพร มั่นคง; พีรพล เจตโรจนานนท์ (สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2023)
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ในการศึกษาผลการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาน้ำเสียชุมชนของประเทศไทยโดยกลไกภายใต้พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 โดยจะเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพผ่านการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งเอกสารกฎหมายและผลการจัดสรรงบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำเสียชุมชนตามแผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม รวมถึงการสัมภาษณ์เชิงลึก เพื่อนำข้อมูลที่ได้รับมาวิเคราะห์ด้วยเครื่องมือ SWOT Analysis ผสมผสานกับ PESTEL Analysis จากการศึกษาพบว่าพบว่า ประเทศไทยมีน้ำเสียชุมชนเกิดขึ้นและมีแหล่งน้ำที่มีคุณภาพน้ำเสื่อมโทรมเช่น แม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง อีกทั้งน้ำทะเลชายฝั่งส่วนอ่าวไทยตอนใน มีค่าไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งพบว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีระบบระบบบำบัดน้ำเสียรวมชุมชนเพียง 202 แห่ง จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 7,850 แห่ง เท่านั้น โดยความสามารถรองรับน้ำเสียของระบบบำบัดน้ำเสียรวมชุมชนยังคงประสบปัญหาจากปริมาณน้ำเสียจำนวนมากที่ไม่ได้ผ่านการบำบัดให้เป็นไปตามมาตรฐานน้ำทิ้งไหลลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ อีกทั้ง ราชการส่วนท้องถิ่นได้รับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อก่อสร้างหรือดำเนินการให้มีระบบบำบัดน้ำเสียรวมชุมชนตามแผนปฏิบัติการ เพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่น้อยมาก กฎหมายได้ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมหรือเขตควบคุมมลพิษจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด แต่ไม่ได้บัญญัติให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องจัดทำข้อเสนอโครงการ ในการแก้ไขปัญหาน้ำเสียชุมชน จึงเป็นเพียงทางเลือกในการแก้ไขปัญหาน้ำเสียชุมชนเท่านั้น และสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไม่มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จากปัญหาที่เกิดขึ้น งานวิจัยนี้จึงมีข้อเสนอแนะให้แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายในส่วนของหน่วยตั้งงบประมาณ และกำหนดอำนาจหน้าที่ในการจัดการน้ำเสียในภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง การใช้กลไกการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดการน้ำเสียชุมชน การสร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนเพื่อกำกับและส่งเสริมการลดน้ำเสียจากแหล่งกำเนิดให้ได้มากที่สุด ส่งเสริมการร่วมทุนกับภาคเอกชนในการจัดการน้ำเสียชุมชนเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายภาครัฐและปัญหาความเชี่ยวชาญในการเดินระบบด้วย
Thumbnail Image
Item
แนวทางการพัฒนาการจัดการขยะมูลฝอยชุมชนในเขตเทศบาลเมืองอ่างทอง อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง
พัลธมาส เชตุพันธุ์; จำลอง โพธิ์บุญ (สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2023)
แนวทางการพัฒนาการจัดการขยะมูลฝอยชุมชนในเขตเทศบาลเมืองอ่างทอง อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาการจัดการขยะมูลฝอยชุมชนในเขตเทศบาลเมืองอ่างทองในปัจจุบัน 2) เพื่อวิเคราะห์และเสนอแนวทางการจัดการขยะมูลฝอยชุมชนในเขตเทศบาลเมืองอ่างทองให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บรวบรวมข้อมูลจากเอกสาร และการสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองอ่างทอง เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองอ่างทอง ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่เทศบาลเมืองอ่างทอง โดยนำข้อมูลที่ได้มาทำการวิเคราะห์ตามแนวคิดของ Balanced Scorecard วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จในการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน โดยใช้ทฤษฎี SWOT Analysis และวิเคราะห์การปรับปรุงการจัดการขยะมูลฝอยชุมชนในเขตเทศบาลเมืองอ่างทองให้มีประสิทธิภาพ โดยใช้เทคนิค TOWS Matrix
Thumbnail Image
Item
การศึกษาการดำเนินงานของหน่วยงาน ในการปรับตัวเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานความยั่งยืนด้านสาธารณสุข กรณีศึกษา : องค์กรภาครัฐแห่งหนึ่งในจ.ระยอง
ศุจินธร อ่อนดี; พีรพล เจตโรจนานนท์; พรพรหม สุธาทร (สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2022)
ภายใต้แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทำให้องค์กรภาครัฐยิ่งต้องตระหนักและเริ่มให้ความสำคัญกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน เช่น การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรไปสู่สังคมผู้สูงอายุ และภาวะโลกร้อนจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ผ่านมาเกิดการเปลี่ยนแปลงที่กระทบทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมต่อหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย องค์การอนามัยโลกมองความยั่งยืนในมิติขององค์กรด้านสุขภาพและสาธารณสุข คือการสร้างระบบสุขภาพที่แข็งแรงให้กับประชาชนทั่วโลก ส่งเสริมคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีเพื่อการเข้าถึงปัจจัยทางการแพทย์และสาธารณสุขให้กับผู้คนทุกช่วงวัย การค้นคว้าอิสระ เรื่องการศึกษาการดำเนินงานของหน่วยงาน ในการปรับตัวเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานความยั่งยืนด้านสาธารณสุข กรณีศึกษา : องค์กรภาครัฐแห่งหนึ่งในจ.ระยอง มีวัตถุประสงค์ในการศึกษา คือศึกษาการดำเนินงานในบริบทขององค์กร และมององค์กรโดยศึกษาจากข้อมูลสถานการณ์เปรียบเทียบกับมาตรฐานความยั่งยืนด้านสาธารณสุขระดับประเทศ (กระทรวงต้นสังกัด) และระดับโลก เพื่อวิเคราะห์ว่าองค์กรมีจุดใดที่ต้องพัฒนาหรือควรปรับปรุงแก้ไขการดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมายความยั่งยืนได้ในอนาคต วิธีการศึกษาเป็นการศึกษาจากเอกสาร (Documentary Research) ขอบเขตของการศึกษาการดำเนินงานขององค์กรและศึกษาจากข้อมูลในปีงบประมาณ 2565 และปีงบประมาณ 2566
Thumbnail Image
Item
การศึกษาความท้าทายและข้อเสนอแนะที่มีต่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในการเคารพสิทธิมนุษยชน
อรวรรณ ระวีกูล; พีรพล เจตโรจนานนท์ (สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2023)
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาข้อท้าทายและข้อเสนอแนะต่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในการเคารพสิทธิมนุษยชนและการใช้การประเมินความเสี่ยงจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้านในการดำเนินธุรกิจ (Human Rights Due Diligence- HRDD) วีธีการศึกษาคือการทบทวนเอกสารที่เกี่ยวข้องและการสัมภาษณ์หน่วยงานที่ทำงานกับ SMEs ในการเสริมศักยภาพด้าน HRDD/ความยั่งยืน ผลการศึกษาพบว่าอุปสรรคสำคัญสำหรับ SMEs ในการนำ HRDD มาปรับใช้คือการขาดความรู้ความเข้าใจด้านสิทธิมนุษยชนและการทำ HRDD, การมองประเด็นสิทธิมนุษยชนแยกจากประเด็นความยั่งยืนอื่น เช่น สิ่งแวดล้อม, การขาดทรัพยากร งบประมาณ สนับสนุน, และการขาดแรงจูงใจและการยอมรับจาก SMEs ว่าสิทธิมนุษยชนมีความสำคัญในการดำเนินงาน ข้อเสนอแนะคือการสร้างความรู้ความเข้าใจกับ SMEs ว่าสิทธิมนุษยชนคืออะไร สำคัญอย่างไร ด้วยภาษาที่เข้าใจง่ายและตรงกับบริบทและหมวดธุรกิจของ SMEs แต่ละแห่ง, การส่งเสริมการพูดคุยและเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันระหว่าง SMEs กับภาคีต่างๆ, การใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีในการสร้างความรู้ความเข้าใจด้าน HRDD ผ่านดิจิตอลแพลทฟอร์ม, การออกแบบชุดความรู้ด้านสิทธิมนุษยชนรวมถึง HRDD เชื่อมโยงกับประเด็นและมาตรฐานสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน, การสนับสนุนของภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านงบประมาณกับ SMEs ในการเพิ่มขีดความรู้และแรงจูงใจด้านการทำ HRDD, และการต่อยอดสิทธิมนุษยชนกับสิ่งที่ทำอยู่แล้วในองค์กร เช่น การทำตามกฎหมายแรงงาน สังคม สิ่งแวดล้อม มาตรฐาน ISO ต่างๆ
Thumbnail Image
Item
การศึกษาวิจัยแนวทางในการขับเคลื่อนการจัดการขยะพลาสติกในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร
กัญญาภา เรืองฤดี; พีรพล เจตโรจนานนท์ (สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2023)
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสถานการณ์ขยะพลาสติก นโยบายและมาตรการเกี่ยวกับการจัดการขยะพลาสติกในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมีวิธีการศึกษาประกอบด้วย การทบทวนและวิเคราะห์นโยบายและมาตรการที่เกี่ยวข้อง การสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญในการกำหนดนโยบาย ด้วยวิธีการเลือกตัวอย่างแบบเจาะจง และการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามออนไลน์กับกลุ่มตัวอย่าง จากนั้นนำข้อมูลทั้งหมดมาประมวลผลเพื่อวิเคราะห์สภาพแวดล้อมด้วยเครื่องมือ SWOT และเสนอแนะแนวทางการขับเคลื่อนและส่งเสริมการจัดการขยะพลาสติกด้วยเครื่องมือ TOWS Matrix โดยขยะพลาสติกถือเป็นปัญหาระดับโลกที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งทางบกและทางทะเล ซึ่งเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องได้รับการแก้ไข เป็นปัญหาท้าทายที่มีความหลากหลายและอุปสรรคสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากพลาสติกเป็นวัสดุสังเคราะห์ที่มีบทบาทอย่างมากในชีวิตประจำวันและมีแนวโน้มการใช้งานเพิ่มมากขึ้น ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นทำให้พลาสติกได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดขยะพลาสติกในปริมาณมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว (Single-use Plastics) เช่น ถุงพลาสติก แก้วพลาสติก เป็นต้น
Thumbnail Image
Publication
โอกาสและข้อท้าทายในอุตสาหกรรมแฟชั่นต่อเทรนด์แฟชั่นสู่ความยั่งยืน
ณิชกาญจน์ จันทรบุศย์; พีรพล เจตโรจนานนท์; พรพรหม สุธาทร (สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2023)
ด้วยกระแสเทรนด์แฟชั่นนั้นถูกขับเคลื่อนไปด้วยกระแสนิยมที่เปลี่ยนแปลงไปในทุกฤดูกาล ร่วมกับพฤติกรรมใช้แล้วทิ้งของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน จึงทำให้อุตสาหกรรมแฟชั่นเป็นอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของโลกที่มีมูลค่ามหาศาล และเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ก่อมลพิษติดอันดับเลวร้ายที่สุดในโลก แม้ว่าในปัจจุบันผู้คนเริ่มตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น จึงมีการการรณรงค์ เรียกร้อง และกดดันจากหลากหลายภาคส่วน เพื่อให้ผู้ผลิตรวมถึงผู้บริโภคตระหนักถึงผลกระทบ และเร่งแก้ไขปัญหาระยะยาวนี้ นำมาทั้งโอกาสและข้อท้าทาย กระแสความยั่งยืนจึงกลายเป็นเทรนด์หลักของโลกในปัจจุบันทำให้เกิดการปรับตัวตามแนวโน้มความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้ง High fashion และ Fast Fashion ที่พยายามจะดำเนินกิจการไปสู่ความยั่งยืนปรับเปลี่ยนกระบวนการการจัดการในห่วงโซ่อุปทานของตนเองให้ได้หรือดีกว่าตามมาตรฐานกฎเกณฑ์ต่างๆที่ถูกนำมาใช้กับอุตสาหกรรมนี้ รวมถึงความเป็นไปได้ของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคเพื่อไปสู่ Slow fashion ข้อท้าทายสำคัญในการทำความยั่งยืนในปัจจุบัน คือผู้บริโภคขาดความเต็มใจที่จะจ่ายเงินมากขึ้นเพื่อซื้อสินค้าด้านความยั่งยืน และ ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ต่อประเด็นด้านการฟอกเขียวหรือ Greenwashing
Thumbnail Image
Item
วิเคราะห์ตัวแบบธุรกิจและเศรษฐกิจ BCG มุ่งสู่การทำเกษตรอินทรีย์อย่างยั่งยืน : กรณีศึกษาศูนย์เรียนรู้พุทธเกษตรอินทรีย์ สวนภูตาด เกษตรธรรมชาติ อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย
สุภาวดี กันพุ่ม; วิชชุดา สร้างเอี่ยม (สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2023)
งานวิจัยศึกษาเกษตรอินทรีย์จากตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จอย่างศูนย์เรียนรู้พุทธเกษตรอินทรีย์ สวนภูตาดเกษตรธรรมชาติ อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้ที่ยึดหลักทำการเกษตรอินทรีย์เกิดเป็นธุรกิจเพื่อดูแลครอบครัวงานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารูปแบบการทำเกษตรอินทรีย์ ระบบการจัดการเกษตรอินทรีย์ และกระบวนการทำธุรกิจของเกษตรอินทรีย์โดยใช้การวิเคราะห์ตัวแบบโมเดลทางธุรกิจ (The Business Model Canvas) จากการทำเกษตรอินทรีย์ภายใต้การนำแนวคิดโมเดลเศรษฐกิจ BCG มาประยุกต์ในการทำเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจที่ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงการพัฒนาเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและการรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างสมดุลให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพเก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ เจ้าของศูนย์เรียนรู้พุทธเกษตรอินทรีย์ หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เครือข่ายผักปลอดสารพิษ กลุ่มผู้บริโภค และกลุ่มนักท่องเที่ยว ร่วมกับการสัมภาษณ์เชิงลึก การสังเกตการณ์แบบมีส่วนร่วม และการศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง
Thumbnail Image
Item
ผลิตภัณฑ์ทางการเงินสีเขียว/ผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อความยั่งยืนในมิติสิ่งแวดล้อมของธนาคาร ใน The S&P Global Sustainability Yearbook 2023 Top 1%
สุจิตรา ศรีวิบูลย์สวัสดิ์; ฆริกา คันธา (สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2023)
ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นหนึ่งในประเด็นด้านความยั่งยืนที่ได้รับการกล่าวถึงอย่างมากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าธนาคารไม่ได้เป็นผู้ทำลายสิ่งแวดล้อมหรือปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นจำนวนมากจากการดำเนินงานด้วยตนเอง แต่ว่าธนาคารมีความเกี่ยวข้องอย่างยิ่งจากผลิตภัณฑ์ของธนาคาร เช่น ผลิตภัณฑ์สินเชื่อแก่ภาคธุรกิจต่างๆ โดยการค้นคว้าอิสระนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลิตภัณฑ์ทางการเงินสีเขียว/ผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อความยั่งยืนในมิติสิ่งแวดล้อมของธนาคารที่อยู่ใน The S&P Global Sustainability Yearbook 2023 Top 1% รวมถึงผลการดำเนินงาน ข้อจำกัด อุปสรรคในผลิตภัณฑ์ทางเงินสีเขียว/ผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อความยั่งยืนในมิติสิ่งแวดล้อม และเปรียบเทียบกับบริบทประเทศไทย โดยการรวบรวมข้อมูลจากรายงานความยั่งยืน เอกสารเผยแพร่สาธารณะ เว็บไซต์ของธนาคาร เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน และเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมธนาคาร
Thumbnail Image
Item
แนวทางการพัฒนาการจัดการพลังงานของอาคารศูนย์การค้าตามเกณฑ์มาตรฐานอาคารอนุรักษ์พลังงาน
สายันต์ คงศรีเจริญ; วิชชุดา สร้างเอี่ยม (สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2023)
จากการที่ประเทศไทยมีความเจริญเดิบ โต ทางเศรษฐกิจรวดเร็วในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ส่งผล ให้เกิดปัญหาความต้องการพลังงานของประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก เพื่อการแก้ปัญหา ดังกล่าวรัฐบาลจึงได้ออกพระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2535 โดยกระทรวง พลังงานได้มีข้อกำหนดของกฎหมายอาคารอนุรักษ์พลังงานของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและ อนุรักข์พลังงานได้ออกกฎกระทรวงกำหนดประเภทหรือขนาดของอาคารและมาตรฐานหลักเกณฑ์ และวิธีการ ในการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน พ.ส. 2563 หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เกณฑ์มาตรฐานอาคารด้านพลังงาน (Building Energy Code หรือ BEC) ซึ่งอาคารห้างสรรพสินค้า และศูนข์การค้าเป็นภาคธุรกิจที่มีการ ใช้ทรัพยากรพลังงานสูงเมื่อเปรียบกับอาการที่พักอาศัย ซึ่ง อาคารที่มีพื้นที่อาคารที่มากกว่า 2,000 ตารางเมตร ขึ้นไปนั้น ได้จัดอยู่อาคารควบคุมประเภทที่ 7 ตามกฎกระทรวง ปี 2563 ซึ่งงานวิจัชนี้มีวัตถุประสงค์ ศึกษาแนวทางการพัฒนาการจัดการพลังงาน ของอาคารศูนย์การค้ตามเกณฑ์มาตรฐานอาคารอนุรักษ์พลังงาน และหาวิธีการปรับปรุงระบบ อาคารของอาคารศูนย์การค้าที่เปิดใช้แล้วสู่ความเป็นอาการอนุรักษ์พลังงานที่เป็นมิตรต่อ สิ่งแวดล้อม โดขกรณีศึกษางานวิจัยนี้เป็นอาการศูนย์การค้าโฮมแฟชั่น สโตร์ ชิดรีพับบลิค สาขา รามอินทรา พื้นที่อาคารรวม 7,518 ตารางเมตร เปีดใช้อาคาร ตั้งแต่ปี 2562 ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิง คุณภาพ เก็บราบรวมข้อมูลโดยการสัมภายณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ กรรมการบริหารและ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด(มหาชน) และการสังเกตการณ์แบบไม่มีส่วนร่วม ร่วมกับการศึกษา เอกสารที่เกี่ยวข้อง
Thumbnail Image
Item
แนวทางในการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกของบริษัทขนส่งทางบกแห่งหนึ่ง
ปัณฑิตา กงทอง; วิชชุดา สร้างเอี่ยม (สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2023)
การขนส่งในปัจจุบันด้วยเครื่องยนต์สันดาปที่มีแหล่งพลังงานมาจากฟอสซิลก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซเรืนกระจกจำนวนมากทำให้เกิดภาวะโลกร้อนและสภาพภูมิอากาศแปรปรวนทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นทำให้หลายภาคส่วนร่วมมือกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไม่เพียงแต่ภาคขนส่งแต่เนื่องด้วยภาขนส่งยังคงต้องใช้เชื้อเพลิงที่มาจากฟอสซิลเป็นแหล่งพลังงานหลักในการขับเคลื่อนรถบรรทุกเครื่องยนต์ การศึกษานี้จึงมุ่งหาแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงานการขนส่งและพบน้ำมันที่มีคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ สามารถใช้ได้กับเครื่องยนต์สันดาปเครื่องเดิม มีการใช้จริงในรถยนต์ส่วนบุคคลแล้วในต่างประเทศ แด่ยังไม่พบในภาคขนส่งหากนำน้ำมันคาร์บอนต่ำมาพัฒนาต่อยอดในภาคขนส่งทำให้มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลงจะส่งผลดีต่อโลกและเหล่าสิ่งมีชีวิตบนโลก อย่างไรก็ดีในประเทศทยยังไม่มีการจำหน่ายแต่ถึงกระนั้นอยากให้ผลักดันนำน้ำมันคาร์บอนต่ำมาใช้และทดสอบถึงประสิทธิภาพการลดการปล่อยคาร์บอนกับเครื่องยนต์สันดาปสำหรับรถบรรทุกในประเทศไทย
Thumbnail Image
Item
The effects of knowledge management on employee performance
Kanokwan Srisunthorn; Tippawan Lorsuwannarat (National Institute of Development Administration, 2023)
The objective of this study is to develop a model for the effects of knowledge management on employee performance and to test the relationship of the variables, transformational leadership, knowledge management process, and employee competency effecting employee performance: Cases of Thai State Enterprises in the Electricity Sector. The conceptual framework uses the concept of Resource Base View. This research study is a mixed research. This is a research that uses both quantitative and qualitative methods together, to find answers to the research hypotheses. The population used in the study was the personnel of Thai state enterprises in the electricity sector, comprising the Electricity Generating Authority of Thailand, Provincial Electricity Authority, and Metropolitan Electricity Authority. The study population comprised personnel under the Central Office totaling 12,615 persons. The study used electronic questionnaires as a tool to collect data until a total of 1,213 responses were obtained, and used correlation test statistics and Multiple Regression Analysis in the inferential statistical test. In addition, to support the results of the quantitative research, qualitative research through in-depth interviews was used as a tool to describe the results in detail.  The results of the quantitative research found that the relationship of the variables was consistent according to the conceptual framework and the research hypothesis. On transformational leadership, there was a high level of positive correlation with employee performance. Transformational leadership had a moderately positive correlation with employee competency. The knowledge management process had a relatively high positive correlation with employee performance. Employee competency was highly positively correlated with employee performance. Transformational leadership was positively correlated with employee performance through the Partial Mediator employee competency variable. Transformational leadership showed a positive correlation to employee performance through the partial mediator knowledge management process using qualitative data obtained from interviews. The quantitative research results were supported by qualitative data. The results of the quantitative study found that factors support correlation with employees’ good performance, opportunity, empathy, and morale, and help them get mentoring, trust, and involvement in introducing new ideas, as well as seeing the value and importance of work from supervisors or colleagues when they have a leader with good policy and vision, good welfare and  there is promotion for the development of people's competency within the organization. In addition, the personnel must be committed to self-development. The success factor of knowledge management in organizations comes from the commitment of the top leaders, having guidelines that are consistent with government policy and state enterprise assessment, as well as emphasizing knowledge management processes as the basis of innovation. There is an exchange of knowledge and having access to knowledge through information technology.  Future research studies should be “The effects of knowledge management on employee innovation”.   
Thumbnail Image
Item
Developing model of healthy tambon project thaihealth promotion foundation implementation
NISA RATTANADILOK NA PHUKET; Somsak Samukkethum (National Institute of Development Administration, 2023)
Developing a model of the Healthy Tambon Project of ThaiHealth Promotion Foundation implementation, studying the health wellness sub-district project of Thai Health, and developing a model for implementing the Tambon Health Project of Thai Health. This research is qualitative. Data were collected through a Documentary Study and an in-depth interview with (1) a Person who sets the policy for the implementation of the Tambon Health Project of Thai Health and (2) Organization leaders and personnel in the Tambon Health Project of Thai Health. 2 areas (Jedeechai Subdistrict Administrative Organization, Pua District, Nan Province and Banhaet Municipality, Banhaet District, Khon Kaen Province), a total of 34 persons were used to analyze the data by interpretation and data analysis by content analysis and present the research results by descriptive analysis. The results of the research had the strengthening community by using the "P4ASSION Model" consisted of (1) a Plan of community development, (2) Participation, (3) Physical Capital, (4) Positive of Knowledge Management, (5) Agent of Change, (6) Social Capital, (7) Self-Management Community, (8) Internal Community Networking, (9) Organization and (10) Networking of External Community. Participating in supporting local government organizations to build community strength through cooperation in the area will help develop partnerships with leading organizations so that communities can strengthen the area.
Thumbnail Image
Item
การปรับตัวของคนจนเมืองในกรุงเทพมหานครเพื่อความมั่นคงในการดำรงชีพภายใต้ภาวะวิกฤตโควิด 19
วัลย์ลิกา ลิ้มสุวรรณ; อาแว มะแส (สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2023)
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพความเปราะบางที่ส่งผลกระทบต่อความยากจนและความเสี่ยงในการดำรงชีพรวมถึงการปรับตัวตลอดจนแนวทางการสร้างความมั่นคงในการดำรงชีพในภาวะวิฤตโควิด 19 ของครัวเรือนยากจนในชุมชนแออัด กรุงเทพมหานคร การดำเนินการวิจัยเป็นไปตามระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยการลงพื้นที่ภาคสนามเพื่อรวบรวมข้อมูลในชุมชนแออัด จำนวน 2 แห่งที่เลือกมาแบบเจาะจง คือ 1) ชุมชนริมคลองพระยาราชมนตรี เขตบางบอน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชานเมือง และ 2) ชุมชนวัดช่องลม เขตยานนาวา ซึ่งตั้งอยู่ย่านใจกลางกรุงของกรุงเทพมหานคร การรวบรวมข้อมูลใช้วิธีการสัมภาษณ์เชิงลึกเป็นหลัก เสริมด้วยการสังเกตและการสนทนากลุ่ม เครื่องมือในการวิจัยประกอบด้วยแบบสำรวจทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีพ แนวคำถามสำหรับการสัมภาษณ์เชิงลึก แบบบันทึกการสังเกต และแบบบันทึกการสนทนากลุ่ม ผลการศึกษาพบว่าครัวเรือนยากจนในชุมชนแออัดส่วนมากมีทรัพย์สินที่จำเป็นต่อการดำรงชีพอย่างน้อย 3 ด้าน ได้แก่ ทรัพย์สินมนุษย์ ทรัพย์สินทางกายภาพ และทรัพย์สินทางการเงิน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ครัวเรือนยากจนสามารถปรับตัวและดำรงชีพอยู่รอดภายใต้ภาวะวิกฤตโควิด 19 ด้วยการรับมือและปรับตัวบนพื้นฐานของทรัพย์สินที่มีอยู่หรือสามารถเข้าถึง ด้วยการแปลงทรัพย์สินต่าง ๆ ไปเป็นทุนในการดำรงชีพ อีกทั้งยังสามารถฟื้นคืนสู่สภาพเดิมได้ด้วยการประยุกต์ใช้ทุนที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เสริมด้วยการสนับสนุนจากทุนทางสังคม โดยสามารถบูรณาการความร่วมมือในรูปแบบเครือข่ายประชาสังคมและการพึ่งพาญาติพี่น้องซึ่งส่วนมากอาศัยอยู่ในชุมชนอื่น ๆ นอกกรุงเทพมหานคร เมื่อเปรียบเทียบระหว่างชุมชนพบความแตกต่างบ้างระหว่างทรัพย์สินที่มีหรือเข้าถึง และระดับการปรับตัวของสมาชิกชุมชนในภาพรวม โดยเกี่ยวข้องกับความแตกต่างของทรัพย์สินและแรงกระตุ้นให้มีการตื่นตัวเพื่อวางแผนในการรับมือกับภัยพิบัติในอนาคต ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายจึงควรส่งเสริมให้เกิดความเข้มแข็งของทุนทางสังคมในรูปแบบเครือข่ายทางสังคมที่มุ่งเน้นการร่วมมือกันช่วยเหลือบรรเทาทุกข์และดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับการดำรงชีพภายหลังภาวะวิกฤต จะสร้างพลังขับเคลื่อนสังคมให้พัฒนาไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรมต่อไป
Thumbnail Image
Item
Network learning process for smart farmer's self development
Pannika Ngamcharoen; Li, Renliang (National Institute of Development Administration, 2022)
Network Learning is an essential and necessary factor to agricultural sections’ development since learning process which all community members can participate would bring to strengthen agriculturists by applying learning attitudes and experiences of network members to develop their learning process. This research article aims to: 1) Study learning process through agriculturists’ learning network in Pak Chong District, Nakhon Ratchasima Province, who aim to transform themselves into intelligent agriculturists. 2) To study the problems and obstacles in the learning process through the network of farmers to develop themselves to be smart agriculture in Pak Chong District Nakhon Ratchasima Province 3) To use the information obtained to develop the learning process from an appropriate network of farmers in Pak Chong District  Nakhon Ratchasima Province Data collection in the learning process through agriculturists network from 3 sample groups; organic vegetable farm owner group, local governor group, and related local academic institute staff group, by using structural deep interview with an observation from qualitative research methods. The results showed that: 1) Learning process through agriculturist network initiated from occurrence of individual problems or requirement of self-development of members in network; secondly, exchanging problems among network members; thirdly, establishing space for exchanging knowledge and concluding lessons learned to operate altogether; fourthly, evaluation and adjusting; fifthly, a continuation of activities and expansion of cooperation region to build relationship and pursue for more explicit knowledge. 2) Problems and obstacles found were intermittence of activities; gathering and consulting happened only when issues, such as pest problem, occurred, the solution would be operated sluggishly. 3) Appropriate process development is to promote learning to occur at the individual level. At the community level, there should be activities that encourage ties with the network. In the network, cooperation between the networks should be promoted. Besides, the issue of overlapped work from government and lack of continuous coordination among organization caused the discontinuous giving knowledge accordingly. Consequently, to establish the highest advantages in learning for agriculturists, government holds the key role to promote and support local level activities exceedingly. For proper solution would be integration and coordination in all sections such as public and academic sector including cooperation of agriculturist group, as the results from learning among network group can be adapted and create more explicit knowledge to improve the quality of life of agriculturists which lead to the stability of life, the abundance of economic and elevate the quality of agriculture itself as well.