ปัญหาและอุปสรรคทางกฎหมายเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายการแข่งขันทางการค้า
Publisher
Issued Date
2013
Issued Date (B.E.)
2556
Available Date
Copyright Date
Resource Type
Series
Edition
Language
tha
File Type
application/pdf
No. of Pages/File Size
110 แผ่น
ISBN
ISSN
eISSN
DOI
Other identifier(s)
b181845
Identifier(s)
Access Rights
Access Status
Rights
ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
Rights Holder(s)
Physical Location
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา
Bibliographic Citation
Citation
จิรัตติกาล สุริยะ (2013). ปัญหาและอุปสรรคทางกฎหมายเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายการแข่งขันทางการค้า. Retrieved from: http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/2981.
Title
ปัญหาและอุปสรรคทางกฎหมายเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายการแข่งขันทางการค้า
Alternative Title(s)
Legal problematic on the enforcement of competition law
Author(s)
Advisor(s)
Editor(s)
item.page.dc.contrubutor.advisor
Advisor's email
Contributor(s)
Contributor(s)
Abstract
การศึกษา เรื่อง ปัญหาและอุปสรรคทางกฎหมายเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายการ
แข่งขันทางการค้ามีวัตถุประสงค์ของการศึกษาคือ ศึกษาแนวคิดและทฤษฏีว่าด้วยหลักเสรีภาพทาง
เศรษฐกิจและการผูกขาดทางการค้า การป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อนและการบังคับใช้กฎหมาย
แข่งขันทางการค้าของต่างประเทศและประเทศไทย ปัญหาทางกฎหมายและการควบคุมการแข่งขัน
ทางการค้า และเสนอแนะแนวทางแก้ไขกฎหมายคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า
ผลการศึกษาพบว่า
1) พระราชบัญญัติ การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2542 บัญญัติให้ฝ่ายการเมืองสามารถ
ดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าได้ ขณะที่ผู้ทรงคุณวุฒิภาคเอกชนมักจะมี
ความสัมพันธ์กันทางธุรกิจกับธุรกิจที่ถูกร้องเรียนเรื่องการค้าไม่ธรรมไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ขณะที่
คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นได้มาโดยการสรรหาโดยความ
เห็นชอบของรัฐสภา
2) เกณฑ์ผู้มีอำนาจเหนือตลาดของประเทศไทยไม่ชัดเจนและต้องมีการพิสูจน์ให้ได้ก่อน
ว่าผู้ประกอบธุรกิจนั้นมีอำนาจเหนือตลาดจริงหรือไม่ ต่างจากเกณฑ์ผู้มีอำนาจเหนือตลาดของ
ต่างประเทศเช่นสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นที่ใช้หลักพฤติกรรมตัดสินเกณฑ์ผู้มีอำนาจเหนือ
ตลาด
3) องค์กรที่ควบคุมการแข่งขันการค้าของไทยและสิงคโปร์ได้รับการแต่งตั้งจากฝ่ายการ
เมืองและเป็นองค์กรในกำกับของรัฐ ขณะที่สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นมีสถานะเป็นองค์กร
อิสระมีอำนาจกึ่งตุลาการ (Quasi Judiciary) ในการสืบสวนสอบสวนการแข่งขันทางการค้า
4) สหภาพยุโรปโดยคณะกรรมาธิการยุโรปด้านการแข่งขันทางการค้าปฏิบัติหน้าที่แทน
ผู้บริโภคมีอำนาจในการเป็นผู้เริ่มคดี ไต่สวนคดี และส่งให้ศาลยุโรปดำเนินคดี ในสหรัฐอเมริกา
กฎหมายจึงเปิดโอกาสเอกชนผู้ได้รับความเสียหายจาการผูกขาดสามารถฟ้องร้องต่อผู้ผูกขาดได้
โดยตรง ส่วนของประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ และไทยการฟ้องร้องระหว่างผู้บริโภคจะทำได้เมื่อ
คณะกรรมการการค้าโดยธรรมได้สอบสวนเสร็จแล้ว แต่กรณีของไทยยังไม่มีการฟ้องร้องของผู้บริโภค
ข้อเสนอแนะสำหรับการศึกษานี้คือ
1) ผู้ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการแข่งขันทางการค้าต้องไม่เกี่ยวข้องกับฝ่ายการเมือง หาก
เป็นผู้ทรงคุณวุฒิเอกชนจะต้องสละการถือครองหุ้นในบริษัทที่ถืออยู่ และลาออกจากการเป็น
กรรมการบริษัทเอกชนก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า
2) ควรกำหนดหลักเกณฑ์ทางจริยธรรมหรือหลักเกณฑ์ทางการประพฤติสำหรับ
คณะกรรมการแข่งขันทางการค้าเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่มีความเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์สาธารณะ
3) ควรนำหลักการของพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ
ปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาปรับใช้กับคณะกรรมการที่เป็นข้าราชการการเมืองและ
ข้าราชการประจำที่ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า
4) ควรยกสถานะสำนักงานคณะกรรมการแข่งขันทางการค้าเป็นองค์กรอิสระเพื่อแยก
สำนักงานคณะกรรมการแข่งขันทางการค้าออกจากกระทรวงพาณิชย์ และป้องกันปัญหาผลประโยชน์
ทับซ้อน
5) สำนักงานคณะการแข่งขันทางการค้าต้องเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกิจที่
ได้รับการร้องเรียน รวมถึงการดำเนินการของสำนักงานฯ ในการพิจารณาเรื่องร้องเรียน
Table of contents
Description
วิทยานิพนธ์ (น.ม.)--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2556.