• English
    • ไทย
  • English 
    • English
    • ไทย
  • Login
View Item 
  •   Wisdom Repository Home
  • คณะและวิทยาลัย
  • คณะรัฐประศาสนศาสตร์
  • GSPA: Theses
  • View Item
  •   Wisdom Repository Home
  • คณะและวิทยาลัย
  • คณะรัฐประศาสนศาสตร์
  • GSPA: Theses
  • View Item
JavaScript is disabled for your browser. Some features of this site may not work without it.

Browse

All of Wisdom RepositoryCommunities & CollectionsBy Issue DateAuthorsTitlesSubjectsBy Submit DateResource TypesThis CollectionBy Issue DateAuthorsTitlesSubjectsBy Submit DateResource Types

My Account

Login

การประเมินผลนโยบายเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ : กรณีศึกษา โรงเรียนที่สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นครศรีธรรมราช เขต 1

by ตรีวนันท์ เนื่องอุไท

Title:

การประเมินผลนโยบายเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ : กรณีศึกษา โรงเรียนที่สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นครศรีธรรมราช เขต 1

Other title(s):

The evaluation of free education policy for 15 year : a case study at the schools in Nakhon Si Thammarat education service area office 1

Author(s):

ตรีวนันท์ เนื่องอุไท

Advisor:

ณัฐฐา วินิจนัยภาค

Degree name:

การจัดการภาครัฐและภาคเอกชนมหาบัณฑิต

Degree level:

Master's

Degree department:

คณะรัฐประศาสนศาสตร์

Degree grantor:

สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

Issued date:

2014

Publisher:

สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

Abstract:

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินผลการดําเนินนโยบายเรียนฟรี 15 ปี อย่างมี คุณภาพ โดยศึกษาจากโรงเรียนที่สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นครศรีธรรมราช เขต 1 เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน และผู้ปกครอง หลังการดําเนินนโยบายฯ และศึกษา ความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียน เพื่อศึกษาปัญหาและอุปสรรคในการดําเนินนโยบายฯ และ เสนอแนะวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสม
วิธีการประเมินนโยบายฯ ใช้การเก็บข้อมูลเชิงปริมาณ โดยใช้แบบสอบถามสํารวจจากนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - 6 จํานวน 450 คน และใช้การเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพโดยใช้การสัมภาษณ์แบบ สนทนากลุ่มกับกลุ่มประชากรที่เป็นผู้ปกครองนักเรียนจํานวน 24 คน และผู้บริหารโรงเรียนจํานวน 24 คน ในการวิเคราะห์ข้อมูลใช้วิธีการวิเคราะห์โดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่า t-test และ Anova
ผลการศึกษา
1) ลักษณะทั่วไปของประชากรเชิงปริมาณ พบว่านักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ที่ศึกษาใน โรงเรียนสังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นครศรีธรรมราช เขต 1 ที่ตอบแบบสอบถาม เป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชายส่วนใหญ่มีผู้ปกครองจบวุฒิการศึกษาสูงสุดระดับประถมศึกษา ผู้ตอบ แบบสอบถามมีลักษณะที่อยู่อาศัยเป็นบ้านของตัวเองมากที่สุด ส่วนใหญ่มีจํานวนพี่น้อง 2-3 คน ส่วน ใหญ่มีบิดาและมารดาประกอบอาชีพลูกจ้างและรับจ้าง และส่วนใหญ่ได้รับเงินค่าขนมวันละ 11 - 20บาท
2) การประเมินผลความพึงพอใจของประชากรเชิงปริมาณ พบว่ามีความพึงพอใจต่อการดําเนิน นโยบายฯ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 127 และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ ปรากฏว่ามีค่าคะแนนเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 1.15 - 1.13 ซึ่งเป็นค่าคะแนนที่อยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด โดย มีความพึงพอใจสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หัวข้อการดําเนินนโยบายมีผsti แนวทางการศึกษาต่อ การ ดําเนินนโยบายมีผลต่อคุณภาพการศึกษาและประสิทธิภาพของการดําเนินงาน
3) ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรกับความคิดเห็น พบว่าเพศของผู้ตอบแบบสอบถาม ระดับชั้น การศึกษาของผู้ตอบแบบสอบถาม จานวนพี่น้องของผู้ตอบแบบสอบถาม ระดับชั้นการศึกษาสูงสุดของ ผู้ปกครอง อาชีพของบิดา และอาชีพของมารดาของผู้ตอบแบบสอบถาม มีผฆเอ่อความพึงพอใจและ ความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามในเรื่องความพึงพอใจต่อนโยบายฯ โดยภาพรวม เรื่องความ เพียงพอของงบประมาณ บุคลากร และทรัพยากรในTารดําเนินนโยบายฯ เรื่องการประชาสัมพันก็ข้อมูล ข่าวสาร เรื่องการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองและนักเรียนในแต่ละกระบวนการ เรื่องการลดภาระค่าใช้จ่าย เรื่องการดําเนินนโยบายฯ มีผลต่อแนวทางการศึกษาต่อ และเรื่องการดําเนินนโยบายฯ มีผลต่อคุณภาพ การศึกษา อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
4) ปัญหาและอุปสรรคในการดําเนินนโยบายฯ พบว่า มีปัญหาในการสื่อสารรายละเอียด ของนโยบายฯ ให้ผู้ปกครองและนักเรียนเข้าใจในตอนแรก นอกจากนี้ยังมียังมีข้อจํากัดในการ ด้าเนินนโยบายฯ ที่กําหนดให้ใช้จ่ายได้เพียงบางอย่างเท่านั้น ทั้งๆ ที่แต่ละโรงเรียนมีความพร้อม สภาพแวดล้อม และบริบทที่แตกต่างกัน ทําให้การใช้จ่ายงบประมาณไม่ประสบความสําเร็จ เท่าที่ควร
5) ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม นักเรียนส่วนใหญ่ต้องการให้เปลี่ยนระบบหนังสือยืมเรียนเป็นการซื้อหนังสือเรียนแบบ 100% ให้ทุกภาคเรียน เพื่อใช้สําหรับเตรียมตัวศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น และอยากให้มีงบประมาณค่าอาหาร กลางวัน ค่าครองชีพ และค่าเดินทางให้กับนักเรียนที่มีฐานะยากจน นอกจากนี้ยังต้องการให้มี งบประมาณในการปรับปรุงอาคารสถานที่ ห้องสมุด และที่ออุปกรณ์กีฬาเพิ่มด้วย
ผู้ปกครองส่วนใหญ่ต้องการให้เพิ่มงบประมาณให้เพียงพอในการใช้จ่ายจริง และให้เพิ่ม กิจกรรมในการส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมให้กับนักเรียนให้มากขึ้น และอยมาให้มีงบประมาณ ในการจัดสอนเสริมและจัดรถรับส่งนักเรียนในการเดินทางไปโรงเรียนด้วย
ผู้บริหารโรงเรียนส่วนใหญ่ต้องการให้มีงบประมาณสําหรับการแก้ไขปัญหาตามบริบทที่ สอดคล้องกับโรงเรียนของตัวเองมากกว่าที่จะเป็นการกําหนดตายตัวเพราะจะทําให้ไม่สามารถ แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด โดยเฉพาะงบประมาณในการจ้างครูเพิ่มเพราะในปัจจุบันจํานวนครูมีน้อยและต้องสอนในรายวิชาที่ตนเองไม่ถนัด ทําให้คุณภาพการจัดการเรียนการสอนยิ่งน้อยลง และควร มีการพิจารณาเรื่องหลักสูตรด้วย เพราะในปัจจุบันมีหลักสูตรและกิจกรรมเสริมหลักสูตรมาก เกินไปจนทําให้เด็กเกิดความสับสนและครูมีความกดดัน นอกจากนี้ควรเปลี่ยนการวัดผลจากการ ใช้เครื่องมีขเดียวกันทั่วประเทศ มาเป็นการวัดผลก่อนเรียน ระหว่างเรียน และหลังเรียน จะเป็น วิธีการที่มีความยุติธรรมมากกว่า เพราะนักเรียนในแต่ละพื้นที่มีความพร้อมแตก ต่างกัน

Description:

วิทยานิพนธ์ (รอ.ม.) -- สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2557

Subject(s):

นโยบายการศึกษา

Resource type:

วิทยานิพนธ์

Extent:

308 แผ่น

Type:

Text

File type:

application/pdf

Language:

tha

Rights:

ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)

URI:

http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/4121
Show full item record

Files in this item (CONTENT)

Thumbnail
View
  • b192183.pdf ( 2.71 MB )

ทรัพยากรสารสนเทศทั้งหมดในคลังปัญญา ใช้เพื่อประโยชน์ทางการเรียนการสอนและการค้นคว้าเท่านั้น และต้องมีการอ้างอิงแหล่งที่มาทุกครั้งที่นำไปใช้ ห้ามดัดแปลงเนื้อหา และทำสำเนาต่อ รวมถึงไม่ให้อนุญาตนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการค้า ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น



This item appears in the following Collection(s)

  • GSPA: Theses [297]

Except where otherwise noted, content on this site is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International license.

Copyright © National Institute of Development Administration | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
Library and Information Center | สำนักบรรณสารการพัฒนา
Email: NIDAWR@nida.ac.th    Chat: Facebook Messenger    Facebook: NIDAWisdomRepository
 

 

Except where otherwise noted, content on this site is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International license.

Copyright © National Institute of Development Administration | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
Library and Information Center | สำนักบรรณสารการพัฒนา
Email: NIDAWR@nida.ac.th    Chat: Facebook Messenger    Facebook: NIDAWisdomRepository
 

 

‹›×