• English
    • ไทย
  • English 
    • English
    • ไทย
  • Login
View Item 
  •   Wisdom Repository Home
  • คณะและวิทยาลัย
  • คณะรัฐประศาสนศาสตร์
  • GSPA: Dissertations
  • View Item
  •   Wisdom Repository Home
  • คณะและวิทยาลัย
  • คณะรัฐประศาสนศาสตร์
  • GSPA: Dissertations
  • View Item
JavaScript is disabled for your browser. Some features of this site may not work without it.

Browse

All of Wisdom RepositoryCommunities & CollectionsBy Issue DateAuthorsTitlesSubjectsBy Submit DateResource TypesThis CollectionBy Issue DateAuthorsTitlesSubjectsBy Submit DateResource Types

My Account

Login

ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

by อุรสา บรรณกิจโศภน

Title:

ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

Other title(s):

Factors affecting investment decision making in the stock exchange of Thailand

Author(s):

อุรสา บรรณกิจโศภน

Advisor:

มนตรี โสคติยานุรักษ์

Degree name:

รัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต

Degree level:

Doctoral

Degree department:

คณะรัฐประศาสนศาสตร์

Degree grantor:

สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

Issued date:

2010

Digital Object Identifier (DOI):

10.14457/NIDA.the.2010.19

Publisher:

สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

Abstract:

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยสําคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจลงทุนของผู้ลงทุน ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ศึกษาเฉพาะกรณีการซิ้อขายหุ้นของผู้ลงทุน โดยจําแนก ประเภทของผู้ลงทุนเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ ผู้ลงทุนรายใหญ่ผู้ลงทุนรายย่อย ผู้ลงทุนสถาบันไทย และผู้ ลงทุนสถาบันต่างประเทศ และนําเสนอผลการศึกษาเชิงประจักษ์นี้เป็นข้อมูลและข้อเสนอแนะเชิง นโยบายให้ผู้กําหนดนโยบายที่ เกี่ยวข้องกับการกํากับดูแลและพัฒนาตลาดทุนไทย โดยเฉพาะใน ส่วนของการพัฒนาคุณภาพ การขยายฐานผู้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งนําเสนอแนวทางใน การพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์เพื่อให้สามารถจัดสรรบริการด้านธุรกิจ หลักทรัพย์ที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ลงทุนแต่ละประเภท ในส่วนของผู้ลงทุนสามารถนํา ผลการศึกษาไปประยุกต์ในการเลือกใช้ปัจจัยในการตัดสินใจลงทุน และกําหนดกลยุทธ์ในการ ลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงและสร้างผลตอบแทนในการลงทุนให้สูงขึ้น ในการศึกษาจะใช้วิธีวิจัยเชิงคุณภาพและวิธีวิจัยเชิงปริมาณประกอบกัน เพื่อพัฒนา กรอบแนวคิดที่มีความชัดเจนสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้ลงทุนไทยในปัจจุบัน ในการวิเคราะห์ ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยสําคัญที่ผู้ลงทุนใช้ในการตัดสินใจลงทุน ได้แก่ ปัจจัยเชิงมหภาคด้าน เศรษฐกิจและการเมือง ปัจจัยเชิงจุลภาค จําแนกเป็น 3 ด้านได้แก่ ปัจจัยจุลภาคด้านปัจจัยเชิง ปริมาณ ปัจจัยจุลภาคด้านปัจจัยเชิงคุณภาพ และปัจจัยจุลภาคด้านปัจจัยเชิงเทคนิค ปัจจัยด้าน ข้อมูลข่าวสาร และปัจจัยด้านสังคมกับค่าเบต้าเฉลี่ยของกลุ่มหลักทรัพย์หรือความผันผวนของ ผลตอบแทนเฉลี่ยของกลุ่มหลักทรัพยืที่ผู้ลงทุนเลือกลงทุนเมื่อเปรียบเทียบกับการเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาหลักทรัพย์ รวมถึงทดสอบความสอดคล้องของผลการศึกษากับแนวคิด ทฤษฎีและข้อ ค้นพบจากการสัมภาษณ์เชิงลึกและประวัติชีวิตของผู้ลงทุนในบริบทของผู้ลงทุนไทยผลการศึกษาพบว่าผู้ลงทุนสถาบันทั้งไทยและต่างประเทศรวมถึงผู้ลงทุนรายใหญ่ที่ ประสบความสําเร็จในการลงทุน ใช้ปัจจัยเชิงมหภาค ได้แก่ ดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจ ภาวะ อุตสาหกรรม เสถียรภาพทางการเมือง รวมถึงพิจารณาคุณภาพของบริษัทและคุณภาพของ ผู้บริหารของบริษัทเจ้าของหุ้นโดยเลือกลงทุนในบริษัทที่มีความสามารถในเชิงแข่งขันสูง มีความ โปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูล ผู้บริหารมีความรู้ความสามารถ ซื่อสัตย์สุจริต บริษัทมีชื่อเสียง เป็น ผู้นําตลาด และมีบรรษัทภิบาล สุดท้ายจะทําการประเมินมูลค่าของหุ้นก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน สอดคล้องกับการลงทุนแบบ Top Down Analysis โดยข้อมูลที่ใช้ในการตัดสินใจจะมาจากจาก แหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศรวมถึงบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ และคําแนะนําของเจ้าหน้าที่การตลาด ในขณะที่ผู้ลงทุนรายย่อยเลือกลงทุนในบริษัทที่มีชื่อเสียง บริษัทที่ได้รับการยอมรับว่ามี บรรษัทภิบาล และมีความโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูล ในการตัดสินใจลงทุนจะไม่คํานึงถึงมูลค่าที่แท้จริงของหุ้นแต่จะให้ความสําคัญกับราคาหุ้น ไม่ให้ความสําคัญกับการประเมินราคาหุ้นรวมถึง ศักยภาพในการเติบโตของบริษัท และเลือกซื้อขายเฉพาะหุ้นที่มีสภาพคล้อง ทั้งนี้ในการตัดสินใจ ลงทุนจะใช้ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่การตลาด ข่าวลือเกี่ยวกับการซื้อขายของผู้ลงทุนรายใหญ่และ ข้อมูลการซื้อขายของผู้ลงทุนต่างประเทศ และซื้อขายตามเพื่อนในห้องค่าหลักทรัพย์ พฤติกรรมในการลงทุนของผู้ลงทุนรายย่อยข้างต้นไม่แตกต่างจากพฤติกรรมของผู้ลงทุน ในช่วงก่อนเกิดวิกฤติเศรษฐกิจใน ปี 2540 ซึ่งหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องละเลยหรือไม่ให้ความสําคัญ กับการพัฒนาคุณภาพของผู้ลงทุนและบุคคลากรที่เกี่ยวข้องนี่ขาดทุน รวมถึงกฎเกณฑ์ที่ เกี่ยวข้องกับผู้ลงทุนอาจส่งผลให้การซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ขาดเสถียรภาพ และผู้ลงทุน ต่างชาติรวมทั้งกลุ่มผู้ลงทุนที่มีศักยภาพในการลงทุนอาจไม่เลือกลงทุนในตลาดทุนไทย จากผลการศึกษาได้นําเสนอข้อเสนอแนะเชิงนโยบายจําแนกเป็น 7 ด้าน ได้แก่ 1) การ ปรับปรุงภาพลักษณะของหน่วยงานที่ทําหน้าที่กําหนดนโยบายที่ เกี่ยวข้องกับผู้ลงทุน 2) การขยาย ฐานผู้ลงทุน 3) การพัฒนาคุณภาพของบริษัทจดทะเบียน 4) การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในตลาด หลักทรัพย์ 5) การกํากับดูแลบริษัทหลักทรัพย์ 6) การพัฒนาคุณภาพผู้ติดต่อผู้ลงทุน และ 7) การ ส่งเสริมความรู้ผู้ลงทุน

Description:

วิทยานิพนธ์ (รป.ด.)--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2010

Subject(s):

การลงทุน -- การตัดสินใจ
หุ้นและการเล่นหุ้น -- ไทย
ตลาดหลักทรัพย์ -- ไทย

Resource type:

ดุษฎีนิพนธ์

Extent:

477 แผ่น

Type:

Text

File type:

application/pdf

Language:

tha

Rights:

ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)

URI:

http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/955
Show full item record

Files in this item (CONTENT)

Thumbnail
View
  • b166944.pdf ( 5.35 MB )

ทรัพยากรสารสนเทศทั้งหมดในคลังปัญญา ใช้เพื่อประโยชน์ทางการเรียนการสอนและการค้นคว้าเท่านั้น และต้องมีการอ้างอิงแหล่งที่มาทุกครั้งที่นำไปใช้ ห้ามดัดแปลงเนื้อหา และทำสำเนาต่อ รวมถึงไม่ให้อนุญาตนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการค้า ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น



This item appears in the following Collection(s)

  • GSPA: Dissertations [410]

Except where otherwise noted, content on this site is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International license.

Copyright © National Institute of Development Administration | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
Library and Information Center | สำนักบรรณสารการพัฒนา
Email: NIDAWR@nida.ac.th    Chat: Facebook Messenger    Facebook: NIDAWisdomRepository
 

 

Except where otherwise noted, content on this site is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International license.

Copyright © National Institute of Development Administration | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
Library and Information Center | สำนักบรรณสารการพัฒนา
Email: NIDAWR@nida.ac.th    Chat: Facebook Messenger    Facebook: NIDAWisdomRepository
 

 

‹›×