ปัจจัยการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน และแนวทางการพัฒนาการป้องกันพื้นที่ป่าไม้ในอุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
dc.contributor.advisor | ฆริกา คันธา | th |
dc.contributor.author | สุนี ลำสา | th |
dc.date.accessioned | 2021-12-16T10:53:47Z | |
dc.date.available | 2021-12-16T10:53:47Z | |
dc.date.issued | 2016 | th |
dc.date.issuedBE | 2559 | th |
dc.description | วิทยานิพนธ์ (วท.ม. (การจัดการสิ่งแวดล้อม))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2559 | th |
dc.description.abstract | การศึกษาเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ1) กำหนดขอบเขตพื้นที่ที่มีการใช้ประโยชน์ที่ดินใน อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง 2) วิเคราะห์ปัจจยัที่มีผลต่อการใช้ประโยชน์ที่ดินในอุทยานแห่งชาติ น้ำตกห้วยยาง 3)ศึกษาข้อมูลทางด้านเศรษฐกิจและสังคมจากประชาชนในพื้นที่ศึกษาและ 4) นำเสนอแนวทางการพัฒนาและการป้องกันการใช้ประโยชน์ที่ดิน ซึ่งแบ่งวิธีการศึกษาออกเป็ น 2 ส่วน ได้แก่การศึกษาลักษณะข้อมูลด้านกายภาพ โดยการนำระบบภูมิสารสนเทศมาประยุกต์ใน การแปลตีความภาพถ่ายทางอากาศ ปีพ.ศ. 2537 และภาพถ่ายดาวเทียม ปีพ.ศ. 2558 ด้วยสายตา ร่วมกับการสำรวจข้อมูลภาคสนาม เพื่อตรวจสอบความถูกต้องในการแปลภาพ จากนั้น จึงนำข้อมูลมาวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน และพื้นที่เสี่ยง สำหรับการศึกษาในส่วนที่สองนั้นเป็นการศึกษาข้อมูลด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยการเก็บแบบสอบถามจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบพื้นที่ศึกษาที่ได้ทำการขยายแนวเขต (Buffer) ออกไป 5 กิโลเมตร เมื่อรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์แบบสอบถามตามสถิติเรียบร้อยแล้ว จึงนำข้อมูลทั้งสองส่วนมา ศึกษาร่วมกัน เพื่อหาแนวทางในการพัฒนาและการป้องกัน พื้นที่ที่เหมาะสม ผลการศึกษา พบว่า พื้นที่ป่าไม้เปลี่ยนเป็นพื้นที่เกษตรกรรม 9,780 ไร่ เปลี่ยนเป็น แหล่งน้ำ 688 ไร่ เปลี่ยนเป็นสิ่งปลูก สร้าง 94 ไร่และเปลี่ยนเป็นถนน 77 ไร่โดยพื้นที่ที่มีระยะห่างจากแหล่งน้ำ สิ่งปลูกสร้างและถนน น้อยจะมีความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินมากกว่าพื้นที่ที่อยู่ไกลออกไป และพื้นที่ที่มีความลาดชันต่า จะมีการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินมากกว่าพื้นที่ที่มีความลาดชันสูง สำหรับผลการศึกษาข้อมูลด้านเศรษฐกิจและสังคมน้ัน พบว่า เจ้าหน้าที่ทุกรายรับทราบแนวเขต พื้นที่อุทยานแห่งชาติและมีความเห็นว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ประชาชนใช้ประโยชน์ที่ดินมากที่สุดคือ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่ามีจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับ พื้นที่ที่ต้องรับผิดชอบทำให้ดูแลไม่ทั่วถึง ในขณะ ที่ประชาชนส่วนใหญ่น้ันรับทราบแนวเขตแค่บางช่วง และมีความเห็นว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้ประชาชนใช้ประโยชน์ที่ดินมากที่สุดคือแนวเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ยังไม่มีความชัดเจน เมื่อนำข้อมูล ทั้งหมดมาพิจารณาแล้ว สามารถเสนอแนะแนวทางในการพัฒนาและการป้องกัน ได้ดังนี้1) พัฒนา ศักยภาพในการทำงานของเจ้าหน้าที่ 2) แบ่งโซนพื้นที่ตามระดับความเสี่ยง 3) ตรวจสอบ พิสูจน์ สิทธิพื้นที่ถือครองของประชาชนรอบพื้นที่อุทยานฯ 4) พัฒนาระบบการจัดการทรัพยากรร่วมกัน ระหว่างหน่วยงานและประชาชนในพื้นที่ 5) พัฒนาระบบการทำงานให้มีความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ โปร่งใสตรวจสอบได้ | th |
dc.format.extent | 134 แผ่น | th |
dc.format.mimetype | application/pdf | th |
dc.identifier.doi | 10.14457/NIDA.the.2016.63 | |
dc.identifier.other | b194270 | th |
dc.identifier.uri | https://repository.nida.ac.th/handle/662723737/5349 | th |
dc.language.iso | tha | th |
dc.publisher | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ | th |
dc.rights | ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0) | th |
dc.subject.other | อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง | th |
dc.subject.other | ป่าไม้ -- การใช้ประโยชน์ | th |
dc.subject.other | ที่ดิน -- ไทย -- ประจวบคีรีขันธ์ | th |
dc.title | ปัจจัยการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน และแนวทางการพัฒนาการป้องกันพื้นที่ป่าไม้ในอุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ | th |
dc.title.alternative | Land use change factors and forest protection guidelines in Huai Yang Waterfall National Park, Prachuap Khiri Khan | th |
dc.type | text--thesis--master thesis | en |
mods.genre | Thesis | th |
mods.physicalLocation | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา | th |
thesis.degree.department | คณะบริหารการพัฒนาสิ่งแวดล้อม | th |
thesis.degree.discipline | การจัดการสิ่งแวดล้อม | th |
thesis.degree.grantor | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ | th |
thesis.degree.level | Masters | th |
thesis.degree.name | วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต | th |