การประเมินประสิทธิภาพการนำเข้าแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า กรณีศึกษา การเปรียบเทียบระหว่างนายจ้าง และผู้ปฏิบัติงาน
Publisher
Issued Date
2014
Issued Date (B.E.)
2557
Available Date
Copyright Date
Resource Type
Series
Edition
Language
tha
File Type
application/pdf
No. of Pages/File Size
100 แผ่น
ISBN
ISSN
eISSN
Other identifier(s)
b191027
Identifier(s)
Access Rights
Access Status
Rights
ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบแสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
Rights Holder(s)
Physical Location
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา
Bibliographic Citation
Citation
พัชราภรณ์ สุเมธาวีนันท์ (2014). การประเมินประสิทธิภาพการนำเข้าแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า กรณีศึกษา การเปรียบเทียบระหว่างนายจ้าง และผู้ปฏิบัติงาน. Retrieved from: https://repository.nida.ac.th/handle/123456789/6994.
Title
การประเมินประสิทธิภาพการนำเข้าแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า กรณีศึกษา การเปรียบเทียบระหว่างนายจ้าง และผู้ปฏิบัติงาน
Alternative Title(s)
Efficiency evaluation of importing system Burmese migrant workers in Thailand : in case of employer and government official 260 ##$c2557.
Author(s)
Advisor(s)
Editor(s)
item.page.dc.contrubutor.advisor
Advisor's email
Contributor(s)
Contributor(s)
Abstract
การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อ 1) ประเมินระดับประสิทธิภาพการนำเข้าแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่าในปัจจุบัน 2) เพื่อค้นหาปัญหาและอุปสรรคที่ทำให้การนำเข้าแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่าไม่มีประสิทธิภาพ 3) เพื่อเสนอแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพในการนำเข้าแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า โดยใช้วิธีการศึกษาเชิงปริมาณเป็นหลัก ได้แก่ การเก็บข้อมูลโดยแบบสอบถามผู้ปฏิบัติงาน นายจ้าง/ตัวแทนนายจ้างทั้งหมด 413 คนประกอบไปด้วย ผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าว ณ สำนักบริหารแรงงานต่างด้าว กรมจัดหางานกระทรวงแรงงาน จำนวน 50 คน นายจ้าง/ตัวแทนนายจ้างที่มาธอรับบริการ ณ กรมจัดหางานจำนวน 363 คน(เก็บข้อมูล ณ สำนักงานใหญ่, สำนักงานจัดหางาน เขตพื้นที่ 7, สมุทรสาคร, สมุทรปราการ)
ผลการศึกษาพบว่า 1) ประสิทธิภาพการนำเข้าแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่าทั้งระบบในมุมของผู้ปฏิบัติงานและนายจ้าง พบว่า อยู่ในระดับปานกลาง โดยมีค่าเฉลี่ย 2.70 2) ทั้งผู้ปฏิบัติงานและนายจ้างมีความคิดเห็นว่า ประสิทธิภาพในด้านบริบทการนำเข้าแรงงานต่างด้าว อยู่ในระดับปานกลาง โดยมีค่าเฉลี่ย 2.80 3) ประสิทธิภาพด้านปัจจัยนำเข้าในมุมของผู้ปฏิบัติงานและนายจ้าง พบว่า ประสิทธิภาพในด้านปัจจัยนำเข้าของนโยบายของการนำเข้าแรงงานต่างด้าว อยู่ในระดับปานกลาง โดยมีค่าเฉลี่ย 2.65 4) ประสิทธิภาพด้านกระบวนการนำเข้าแรงงานต่างด้าวในมุมของผู้ปฏิบัติงานและนายจ้าง พบว่าประสิทธิภาพในด้านกระบวนการนำเข้าแรงงานต่างด้าว อยู่ในระดับปานกลาง โดยมีค่าเฉลี่ย 2.62 5) ประสิทธิภาพด้านผลผลิตในมุมของผู้ปฏิบัติงานและนายจ้าง พบว่าในภาพรวมทั้งผู้ปฏิบัติงานและนายจ้างมีความคิดเห็นว่าประสิทธิภาพในด้านผลผลิต อยู่ในระดับปานกลาง โดยมีค่าเฉลี่ย 2.56 6) ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ยอมรับสมมติฐานข้อที่ 4 คือ ระดับประสิทธิภาพด้านผลผลิตการนำเข้าแรงงานของผู้ปฏิบัติงานและนายจ้างไม่แตกต่างกัน และปฏิเสธสมมติฐานข้อที่ 1 ประสิทธิภาพการนำเข้าแรงงานต่างด้าวอยู่ในระดับดี ข้อที่ 2 ระดับประสิทธิภาพด้านบริบทการนำเช้าแรงงานต่างด้าวในมุมมองของของผู้ปฏิบัติงานและนายจ้างแตกต่างกัน ข้อที่ 3 ระดับประสิทธิภาพด้านปัจจัยนำเช้าแรงงานในมุมมองของผู้ปฏิบัติงานและนายจ้างไม่แตกต่างกันและข้อที่ 5 ระดับประสิทธิภาพด้านผลผลิตการนำเข้าแรงงานในมุมมองของผู้ปฏิบัติงานและนายจ้างไม่แตกต่างกัน
ข้อเสนอแนะที่ได้จากการศึกษาครั้งนี้ผู้ศึกษาขอเสนอปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ประสิทธิภาพด้านบริบทเพิ่มมากขึ้นคือ ให้ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นในการกำหนดยุทธศาสตร์ เพื่อนำปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในการปฏิบัติงานไปปรับปรุงพัฒนาเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด มีทีมในการประเมินผลงานอย่างต่อเนื่อง และต้องมีการตรวจสอบความโปร่งใสในการปฏิบัติงาน ควรมีการประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้กับนายจ้างหรือตัวแทนนายจ้างและ ผู้ประกอบการอย่างทั่วถึง
แนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพในด้านปัจจัยนำเข้าและกระบวนการคือ ผู้ปฏิบัติงานต้องการบุคลากรมาช่วยในการปฏิบัติงานเพิ่ม และต้องการเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาช่วยในการเก็บข้อมูล ด้านนายจ้างต้องการความสะดวกสบาย ความง่ายในการติดต่อและการประชาสัมพันธ์ที่เพิ่มมากขึ้น มีการประเมินผลการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง
ในการศึกษาครั้งต่อไปผู้วิจัยเสนอให้มีการศึกษาเปรียบเทียบนโยบายการนำเข้า แรงงานต่างด้าวกับนโยบายการพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า
Table of contents
Description
วิทยานิพนธ์ (รอ.ม.)--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2557