การใช้เทคนิคการวิเคราะห์นโยบายในส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจด้านเศรษฐกิจและสังคม

dc.contributor.advisorวินิต ทรงประทุม, อาจารย์ที่ปรึกษาth
dc.contributor.authorอรัสธรรม พรหมมะth
dc.date.accessioned2014-05-05T09:15:34Z
dc.date.available2014-05-05T09:15:34Z
dc.date.issued1992th
dc.date.issuedBE2535th
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (พบ.ด. (การบริหารการพัฒนา))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2535.th
dc.description.abstractวิทยานิพนธ์เรื่อง "การใช้เทคนิคการวิเคราะห์นโยบายในส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจด้านเศรษฐกิจและสังคม" นี้ มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ (1) ต้องการศึกษาว่าหน่วยงานด้านการวิเคราะห์นโยบายในส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจด้านเศรษฐกิจและสังคม นำเทคนิคการวิเคราะห์นโยบายไปใช้อย่างไรบ้าง (2) ต้องการเปรียบเทียบความคล้ายคลึงและความแตกต่างของการใช้เทคนิคการวิเคราะห์นโยบายในส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจด้านเศรษฐกิจและสังคม และ (3) ต้องการวิเคราะห์ว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่เป็นสาเหตุของความแตกต่างในการนำเทคนิคการวิเคราะห์นโยบายไปใช้ในส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจด้านเศรษฐกิจและสังคม ตามแนวคิดทางทฤษฏี เทคนิคดังกล่าวมีมากมายหลากหลาย ซึ่งพอจะจัดได้เป็น 3 กลุ่ม คือ เทคนิคการหารายละเอียดของข้อมูลในการวิเคราะห์นโยบาย เทคนิคการจัดระเบียบข้อมูลในการวิเคราะห์นโยบาย และเทคนิคการหาความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลในการวิเคราะห์นโยบาย เทคนิคเหล่านี้สามารถนำไปใช้ได้ในทุกขั้นตอนของการกำหนดนโยบาย อันประกอบด้วย ขั้นการกำหนดปัญหา ขั้นการสร้างทางเลือกในการแก้ปัญหา ขั้นการเลือกวิธีการแก้ปัญหา ขั้นการนำทางเลือกไปปฏิบัติ และขั้นการติดตามและประเมินผล เทคนิคดังกล่าวมีทั้งเทคนิคเชิงปริมาณและคุณภาพ เทคนิคเชิงปริมาณนิยมนำไปใช้วิเคราะห์นโยบายทางเศรษฐกิจ ส่วนเทคนิคเชิงคุณภาพนิยมนำไปใช้วิเคราะห์นโยบายทางสังคม นอกจากนี้ ตามแนวคิดทางทฤษฏียังระบุอีกว่า การนำเทคนิคการวิเคราะห์นโยบายไปใช้ในหน่วยงานจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับทัศนคติของผู้บริหารภายในหน่วยงานต่องานวิเคราะห์นโยบายระดับความรู้ของนักวิเคราะห์นโยบาย ปริมาณนักวิเคราะห์นโยบาย งบประมาณด้านการวิเคราะห์นโยบาย ลักษณะงานเชิงปริมาณ และความมุ่งกำไรของหน่วยงาน จากแนวคิดดังกล่าว ผู้วิจัยจึงตั้งสมมติฐานไว้ 6 ประการ ดังนี้th
dc.description.abstract(1) หน่วยงานที่ผู้บริหารมีทัศนคติที่ดีต่อการใช้เทคนิคการวิเคราะห์นโยบาย ย่อมมีการใช้เทคนิคการวิเคราะห์นโยบายมากกว่าหน่วยงานที่ผู้บริหารมีทัศนคติไม่ดีth
dc.description.abstract(2)หน่วยงานที่นักวิเคราะห์นโยบายมีความรู้ด้านการวิเคราะห์นโยบายมาก ย่อมมีการใช้เทคนิคการวิเคราะห์นโยบายมากกว่าหน่วยงานที่นักวิเคราะห์นโยบายมีความรู้ด้านการวิเคราะห์นโยบายน้อย.th
dc.description.abstract(3) หน่วยงานที่มีปริมาณนักวิเคราะห์นโยบายมาก ย่อมมีการใช้เทคนิคการวิเคราะห์นโยบายมากกว่าหน่วยงานที่มีปริมาณนักวิเคราะห์นโยบายน้อย.th
dc.description.abstract(4) หน่วยงานที่มีงบประมาณด้านการวิเคราะห์นโยบายมากย่อมมีการใช้เทคนิคการวิเคราะห์นโยบายมากกว่าหน่วยงานที่มีงบประมาณด้านการวิเคราะห์นโยบายน้อย.th
dc.description.abstract(5) หน่วยงานที่มีลักษณะงานเชิงปริมาณมาก คือหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ ย่อมมีการใช้เทคนิคการวิเคราะห์นโยบายมากกว่าหน่วยงานที่มีลักษณะงานเชิงปริมาณน้อย คือหน่วยงานด้านสังคมth
dc.description.abstract(6) หน่วยงานที่มุ่งกำไรมาก คือ รัฐวิสาหกิจ ย่อมมีการใช้เทคนิคการวิเคราะห์นโยบายมากกว่าหน่วยงานที่มุ่งกำไรน้อยหรือไม่มุ่งกำไร คือ ส่วนราชการ.th
dc.description.abstractการพิสูจน์สมมติฐานกระทำโดยการเก็บข้อมูลจากตัวอย่างประชากรที่เป็นหน่วยงานด้านการวิเคราะห์นโยบายในส่วนราชการ 39 แห่ง และรัฐวิสาหกิจ 19 แห่ง ด้วยวิธีการสัมภาษณ์ผู้บริหารระดับผู้อำนวยการกอง การใช้แบบสอบถามทั้งกับผู้บริหารและเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบาย การศึกษาจากเอกสารของหน่วยงานตลอดจนข่าวหนังสือพิมพ์ที่เกี่ยวข้อง และเนื่องจากการวิจัยเรื่องนี้จะต้องอาศัยความเข้าใจระบบการทำงานแบบราชการ ระบบการบริหาร และระบบธุรกิจการเมืองเป็นอย่างมาก ผู้วิจัยจึงเข้าไปทำงานอยู่ในมหาวิทยาลัยเอกชน ซึ่งมีระบบทั้งสามรวมอยู่ด้วยกัน เพื่อให้มีประสบการณ์โดยตรงและเข้าใจระบบทั้งสามได้อย่างลึกซึ้ง อันเป็นประโยชน์ต่อการพิสูจน์สมมติฐานอีกด้วย ผู้วิจัยได้เริ่มศึกษาเรื่องนี้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2530 ควบคู่ไปกับการทำงานในมหาวิทยาลัยเอกชน จนปัจจุบันth
dc.description.abstractผลการวิจัยปรากฎว่า โดยภาพรวม ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจด้านเศรษฐกิจและสังคมในประเทศไทยยังใช้เทคนิคการวิเคราะห์นโยบายน้อย คือร้อยละ 58.62 ของหน่วยงานดังกล่าวจัดอยู่ในกลุ่มที่มีการใช้เทคนิคการวิเคราะห์นโยบายน้อย แต่ก็ใช้ทุกขั้นตอนของกระบวนการกำหนดนโยบาย โดยมากใช้เทคนิคง่าย ๆ ไม่นิยมใช้เทคนิคที่ต้องใช้วิธีการทางคณิตศาสตร์และสถิติ เทคนิคที่ส่วนราชการใช้มากกว่ารัฐวิสาหกิจก็มีมากกว่าเทคนิคที่รัฐวิสาหกิจใช้มากกว่าส่วนราชการ แต่เทคนิคที่รัฐวิสาหกิจใช้มากกว่าส่วนราชการนั้น เป็นเทคนิคที่ต้องใช้ความรู้ทางคณิตศาสตร์และสถิติหลายเทคนิค โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์th
dc.description.abstractเมื่อพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรอิสระ 6 ตัวแปร คือ ทัศนคติของผู้บริหารต่อการใช้เทคนิคการวิเคราะห์นโยบาย ระดับความรู้ของนักวิเคราะห์นโยบาย ปริมาณนักวิเคราะห์นโยบาย งบประมาณด้านการวิเคราะห์นโยบาย ลักษณะงานเชิงปริมาณ และความมุ่งกำไรของหน่วยงานกับตัวแปรตาม 1 ตัวแปร คือ การใช้เทคนิคการวิเคราะห์นโยบาย โดยใช้วิธีการวิเคราะห์สหสัมพันธ์เพียร์สัน (Pearson's Correlation) การวิเคราะห์ความถดถอยแบบพหุ (Multiple Regression) และการวิเคราะห์จำแนกประเภท (Discriminant Analysis) ผสมผสานกับการวิเคราะห์เชิงคุณภาพ.th
dc.description.abstractนอกจากนี้ ยังพบว่าปัจจัยที่มีผลต่อระดับความรู้ของนักวิเคราะห์นโยบายเรียงลำดับความสำคัญจากมากไปหาน้อยก็คือ ความเกี่ยวข้องกับงานด้านการวิเคราะห์นโยบาย ระดับความรู้พื้นฐานด้านการวิเคราะห์นโยบาย อายุการทำงานด้านการวิเคราะห์นโยบาย การสำเร็จการศึกษาด้านนโยบายและการบริหาร การผ่านการอบรมด้านการวิเคราะห์นโยบาย และวุฒิการศึกษา.th
dc.description.abstractประเด็นสำคัญที่พบอีกประการหนึ่งก็คือ หน่วยงานด้านการวิเคราะห์นโยบายทำงานไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร มักทำงานตามที่เคยทำกันมา ไม่มีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงมากนัก หน่วยงานด้านการวิเคราะห์นโยบายกับหน่วยงานด้านการติดตามประเมินผลจะแยกจากกัน และไม่ประสานงานกัน ทั้ง ๆ ที่การติดตามประเมินผลเป็นส่วนหนึ่งของการวิเคราะห์นโยบาย หน่วยงานวิเคราะห์นโยบายมักทำหน้าที่เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลเสนอผู้บริหารเมื่อผู้บริหารต้องการเท่านั้นth
dc.description.abstractจากผลการวิจัยดังกล่าว ผู้วิจัยจึงเสนอแนะให้มีการจัดตั้งหน่วยงานด้านการวิเคราะห์นโยบายและวางแผนทุกกระทรวง ทบวง กรม และทุกรัฐวิสาหกิจโดยมีงานด้านการติดตามและประเมินผลรวมอยู่ในหน่วยงานด้านการวิเคราะห์นโยบายและวางแผนด้วย ให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณสำหรับงานด้านนี้โดยเฉพาะ ให้มีการกำหนดแผนพัฒนาระบบการบริหารงานของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจให้ชัดเจน ให้หน่วยงานด้านการวิเคราะห์นโยบายและวางแผนรับบุคคลเข้าทำงานในตำแหน่งนักวิเคราะห์นโยบายโดยคำนึงถึงความรู้ความสามารถด้านการวิเคราะห์นโยบายเป็นสำคัญเพื่อมาทำงานด้านการวิเคราะห์นโยบายจริง ๆ หน่วยงานนี้ควรส่งเสริมให้นักวิเคราะห์นโยบายมีโอกาสพัฒนาความรู้ความสามารถด้านการวิเคราะห์นโยบาย และเนื่องจากการวิจัยเรื่องนี้เป็นการวิจัยระดับมหภาคซึ่งให้ภาพรวมเกี่ยวกับการใช้เทคนิคการวิเคราะห์นโยบายในประเทศไทยไว้แล้ว การวิจัยที่น่าจะทำต่อไปจึงน่าจะเป็นการวิจัยระดับจุลภาคเกี่ยวกับการใช้เทคนิคแต่ละวิธีในการวิเคราะห์นโยบายแต่ละอย่างในแต่ละหน่วยงานในประเทศไทย.th
dc.format.extentก-ณ, 334 แผ่นth
dc.format.mimetypeapplication/pdfth
dc.identifier.doi10.14457/NIDA.the.1992.8
dc.identifier.urihttp://repository.nida.ac.th/handle/662723737/901th
dc.language.isothath
dc.publisherสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์th
dc.rightsผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)th
dc.subject.lccJQ 1745 .A1 อ17th
dc.subject.otherนโยบายสาธารณะth
dc.subject.otherการวิเคราะห์นโยบายth
dc.subject.otherไทย -- นโยบายเศรษฐกิจth
dc.subject.otherไทย -- นโยบายสังคมth
dc.titleการใช้เทคนิคการวิเคราะห์นโยบายในส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจด้านเศรษฐกิจและสังคมth
dc.title.alternativeThe application of public policy analytic techniques by economic and social public agencies and enterprisesth
dc.typetext--thesis--doctoral thesisth
mods.genreDissertationth
mods.physicalLocationสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนาth
thesis.degree.departmentคณะรัฐประศาสนศาสตร์th
thesis.degree.disciplineการบริหารการพัฒนาth
thesis.degree.grantorสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์th
thesis.degree.levelDoctoralth
thesis.degree.nameพัฒนบริหารศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตth
Files
Original bundle
Now showing 1 - 1 of 1
Thumbnail Image
Name:
nida-diss-b2403.pdf
Size:
4.94 MB
Format:
Adobe Portable Document Format
Description:
Full Text