การพัฒนากรอบการทำงานแบบหลายภาคส่วนเพื่อป้องกันการฟอกเขียวของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย : กรณีศึกษาเปรียบเทียบกรอบการทำงานกับแนวปฏิบัติสากล
Publisher
Issued Date
2025
Issued Date (B.E.)
2568
Available Date
Copyright Date
Resource Type
Series
Edition
Language
tha
eng
eng
File Type
application/pdf
No. of Pages/File Size
4 แผ่น
ISBN
ISSN
eISSN
DOI
Other identifier(s)
Identifier(s)
Access Rights
Access Status
Rights
ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบแสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
Rights Holder(s)
Physical Location
Bibliographic Citation
Citation
ตารนุช พรหมเพ็ญ (2025). การพัฒนากรอบการทำงานแบบหลายภาคส่วนเพื่อป้องกันการฟอกเขียวของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย : กรณีศึกษาเปรียบเทียบกรอบการทำงานกับแนวปฏิบัติสากล. Retrieved from: https://repository.nida.ac.th/handle/123456789/7235.
Title
การพัฒนากรอบการทำงานแบบหลายภาคส่วนเพื่อป้องกันการฟอกเขียวของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย : กรณีศึกษาเปรียบเทียบกรอบการทำงานกับแนวปฏิบัติสากล
Alternative Title(s)
Developing multi-stakeholder frameworks to prevent corporate greenwashing among listed companies in Thailand: A comparative study with global best practices
Author(s)
Advisor(s)
Editor(s)
item.page.dc.contrubutor.advisor
Advisor's email
Contributor(s)
Contributor(s)
Abstract
การฟอกเขียวเป็นปัญหาระดับโลกที่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของตลาดทุนและความน่าเชื่อถือของระบบนิเวศความยั่งยืน การค้นคว้าอิสระนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนากรอบการ
ทำงานแบบหลายภาคส่วนสำหรับการตรวจสอบและป้องกันการฟอกเขียวของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
การศึกษาใช้วิธีการวิจัยเชิงเอกสาร (Documentary Research) ประกอบด้วย 3ขั้นตอนหลัก คือ การทบทวนวรรณกรรมและการสังเคราะห์ทฤษฎีเชิงพฤติกรรมองค์กร การวิเคราะห์เปรียบเทียบเชิงคุณภาพ (Qualitative Comparative Analysis) ของมาตรฐานและแนวปฏิบัติสากลจาก 5 ทวีป และเพื่อนำสู่การพัฒนากรอบการทำงานที่เหมาะสมกับบริบทประเทศไทย
ผลการศึกษาพบว่า ประเทศไทยมีช่องว่างสำคัญได้แก่ การขาดหน่วยงานเฉพาะ การขาดเกณฑ์มาตรฐานการอ้างอิงด้านสิ่งแวดล้อม ช่องว่างในการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทจดทะเบียน และช่องว่างในการติดตามตรวจสอบ เมื่อเปรียบเทียบกับแนวปฏิบัติสากล พบว่าปัจจัยแห่งความสำเร็จประกอบด้วย กรอบกฎหมายที่ชัดเจนและครอบคลุม การบังคับใช้ที่มีประสิทธิภาพ ความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน และการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในหลายภาคส่วน ทั้งนี้กฎระเบียบข้อบังคับที่ครอบคลุมเข้มงวดของสหภาพยุโรป การร่วมมือระหว่างภาดส่วนที่มีประสิทธิภาพของประเทศสิงคโปร์ รวมทั้งกาคประชาสังคมที่เข้มแข็งในสหรัฐอเมริกาและเยอรมัน ถือเป็นแนวทางตัวอย่างที่ดีมาก
กรอบการทำงานที่นำเสนอ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะเป็นผู้กำกับดูแลหลัก ในการปรับปรุงข้อบังคับและประเด็นสำคัญในการเปิดเผยข้อมูล ศึกษาความพร้อมการใช้เครื่องมือ SBTY
เพื่อตรวจสอบเป้าหมาขสิ่งแวดล้อมเชิงวิทยาศาสตร์ ขกระดับ ESG Data Platform เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล และพัฒนา ESG Excellence Index ให้ครอบคลุมความเสียงการฟอกเขียว ประสานร่วมกับคณะกรรมการป้องกันการฟอกเขียวแห่งชาติที่จะจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางในการผลักดันให้เกิดบูรณาการความรู้ความชำนาญจากหลายภาคส่วน การริเริ่มร่างกรอบกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติป้องกันการฟอกเขียว มาตราฐานข้อบังคับใหม่เกี่ยวกับการอ้างอิงด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงการเร่ง
พัฒนาThailand Taxonomy ให้พร้อมได้จริง
เครื่องมือตรวจสอบและเทคโนโลยีจะถูกพัฒนามาใช้ เช่นการประเมินความเสี่ยงการฟอกเขียวของบริษัท Greenwashing Risk Assessment (GRA) และ ดัชนีการฟอกเขียวของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (TGSI) ส่วนระบบการตรวจจับการฟอกเขียว ประกอบไปด้วยด้วยปัญญาประดิษฐ์ที่พัฒนาขึ้นใหม่ Thai-ClimateBERT หรือ นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาแนวทางเฉพาะ
สำหรับการฟอกเขียวที่พบบ่อยในประเทศไทย 3 ประเด็น คือ การฟอกเขียวผ่านคาร์บอนเครดิต การตั้งเป้าหมาย Net Zero ที่ไม่สามารถทำได้จริง และการฟอกเขียวผ่านโครงการเพื่อสังคม (CSR)
กรอบการทำงานที่นำเสนอ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะเป็นผู้กำกับดูแลหลัก ในการปรับปรุงข้อบังคับและประเด็นสำคัญในการเปิดเผยข้อมูล ศึกษาความพร้อมการใช้เครื่องมือ SBTY
เพื่อตรวจสอบเป้าหมาขสิ่งแวดล้อมเชิงวิทยาศาสตร์ ขกระดับ ESG Data Platform เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล และพัฒนา ESG Excellence Index ให้ครอบคลุมความเสียงการฟอกเขียว ประสานร่วมกับคณะกรรมการป้องกันการฟอกเขียวแห่งชาติที่จะจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางในการผลักดันให้เกิดบูรณาการความรู้ความชำนาญจากหลายภาคส่วน การริเริ่มร่างกรอบกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติป้องกันการฟอกเขียว มาตราฐานข้อบังคับใหม่เกี่ยวกับการอ้างอิงด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงการเร่งพัฒนาThailand Taxonomy ให้พร้อมได้จริง
เครื่องมือตรวจสอบและเทคโนโลยีจะถูกพัฒนามาใช้ เช่นการประเมินความเสี่ยงการฟอกเขียวของบริษัท Greenwashing Risk Assessment (GRA) และ ดัชนีการฟอกเขียวของตลาด
หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (TGSI) ส่วนระบบการตรวจจับการฟอกเขียว ประกอบไปด้วยด้วยปัญญาประดิษฐ์ที่พัฒนาขึ้นใหม่ Thai-ClimateBERT หรือ นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาแนวทางเฉพาะ
สำหรับการฟอกเขียวที่พบบ่อยในประเทศไทย 3 ประเด็น คือ การฟอกเขียวผ่านคาร์บอนเครดิต การตั้งเป้าหมาย Net Zero ที่ไม่สามารถทำได้จริง และการฟอกเขียวผ่านโครงการเพื่อสังคม (CSR)
Table of contents
Description
การค้นคว้าอิสระ คณะบริหารการพัฒนาสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2568

