การพัฒนาค่านิยมทางการบริหารราชการโดยอาศัยหลักการพุทธศาสนา
| dc.contributor.advisor | บุญเย็น วอทอง, อาจารย์ที่ปรึกษา | th |
| dc.contributor.author | สมบูรณ์ ไพรินทร์ | th |
| dc.date.accessioned | 2014-05-05T09:17:13Z | |
| dc.date.available | 2014-05-05T09:17:13Z | |
| dc.date.issued | 1968 | th |
| dc.date.issuedBE | 2511 | th |
| dc.description | วิทยานิพนธ์ (พบ.ม. (รัฐประศาสนศาสตร์))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2511. | th |
| dc.description.abstract | ความมุ่งหมายของการศึกษาเรื่องนี้ก็เพื่อหาแนวทางในการอบรมเพื่อพัฒนาค่านิยมทางการบริหารราชการ เพื่อประโยชน์ในการบริหารงานในหน้าที่ราชการให้เป็นผลดี มีประสิทธิภาพอำนวยประโยชน์สุขแก่ประชาชนเป็นส่วนรวม ซึ่งในการศึกษาเรื่องนี้ผู้เขียนมุ่งศึกษาประเด็นสำคัญ 2 ประการคือ.- | th |
| dc.description.abstract | 1. ปัจจุบันความรู้สึกทางค่านิยมในทางบริหารตามแนวความคิดแผนใหม่ของข้าราชการของไทยเราอยู่ในระดับที่น่าพอใจหรือไม่ | th |
| dc.description.abstract | 2. การพัฒนาค่านิยมทางบริหารดังกล่าว จะทำได้โดยใช้หลักพุทธศาสนาเข้ามาเป็นแนวทางได้อย่างไร. | th |
| dc.description.abstract | จากผลการศึกษาปรากฏว่า สถานการณ์เกี่ยวแก่ข้าราชการในประเทศไทยปัจจุบันยังมิได้อยู่ในระดับที่น่าพอใจนัก เพราะมีการฉ้อราษฎร์บังหลวงกันอยู่ทั่วไป สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการขาดความรู้สึกผิดชอบทางศีลธรรม ควรจะได้มีการแก้ไขปรับปรุงโดยการนำหลักธรรมะในพุทธศาสนาเข้ามาร่วม โดยการจัดให้มีการอบรมธรรมะแก่ข้าราชการขึ้นอย่างเป็นระบบ ระเบียบติดต่อกัน แต่ก่อนอื่นต้องสำรวจความต้องการในทางบริหารเสียก่อน เพื่อให้การพัฒนาอบรมจิตใจเกิดคุณค่าทางศีลธรรมอันจำเป็นที่สอดคล้องและส่งเสริมให้ข้าราชการมีแนวทางในการที่จะทำให้เทคนิคการบริหารแผนใหม่ได้ผลดียิ่งขึ้น เพื่อความสะดวกในการอบรมจำเป็นต้องมีการจัดตั้งคณะกรรมการในระดับชาติขึ้นเพื่อทำหน้าที่วางโครงการในการฝึกอบรม และอำนวยความสะดวกในการติดต่อประสานงาน ส่วนการดำเนินการฝึกอบรมควรให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานกลางเป็นผู้รับผิดชอบต่อเนื่องกัน แต่ในระยะแรกการตั้งหน่วยงานกลางอาจไม่สะดวก ควรให้สำนักฝึกอบรม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เป็นผู้ดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวกับเทคนิคในทางบริหารแผนใหม่ และในส่วนที่เกี่ยวแก่การพัฒนาจิตใจ เพื่อสร้างคุณค่าที่ดีในทางบริหารไปพร้อม ๆ กันด้วย อย่างไรก็ดีผู้เขียนฝากข้อคิดเห็นไว้ในตอนท้ายว่าหลักศาสนา ปรัชญาของพระพุทธเจ้าตรงตามหลักเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ และสามารถนำไปปรับได้ผลดีอย่างยิ่ง แต่ที่คนไทยเรายังนับถือศาสนาด้วยศรัทธา มิใช่ด้วยปัญญานั้นเนื่องจากการดำรงชีวิตของคนไทย ยังขาดหลักการและเหตุผลอยู่มาก และยังเข้าไม่ถึงแก่นแท้ของพุทธศาสนา จึงไม่ได้นำมาใช้ประพฤติปฏิบัติ ที่เป็นเช่นนี้ผู้เขียนเห็นว่าเป็นเพราะ "ระบบ" ศาสนาที่เป็นมาแล้วและกำลังเป็นอยู่ ยังไม่ตรงตามหลักวิทยาศาสตร์ และเป็นระบบระเบียบเท่าที่ควร ทำให้เกิดความเห็นขัดแยังกันสองฝ่าย คือ ฝ่ายบรรพชิต และฝ่ายหัวสมัยใหม่ ผู้เขียนมั่นใจว่าหากได้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงระบบเก่า แล้วนำเอาความคิดของทั้งสองฝ่ายมาผสมกัน จนเกิดเป็นแนวความคิด และการกระทำแนวใหม่ คงจะทำให้ข้าราชการไทยทุกคนได้รับคำสอนทางศาสนาโดยไม่ยากนัก | th |
| dc.format.extent | 132 หน้า. | th |
| dc.format.mimetype | application/pdf | th |
| dc.identifier.doi | 10.14457/NIDA.the.1968.7 | |
| dc.identifier.uri | http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/1071 | th |
| dc.language.iso | tha | th |
| dc.publisher | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ | th |
| dc.rights | ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0) | th |
| dc.subject.lcc | JQ 1745 .A1 ส165 | th |
| dc.subject.other | การบริหารรัฐกิจ -- ไทย | th |
| dc.subject.other | รัฐประศาสนศาสตร์ -- ไทย | th |
| dc.title | การพัฒนาค่านิยมทางการบริหารราชการโดยอาศัยหลักการพุทธศาสนา | th |
| dc.type | text--thesis--master thesis | th |
| mods.genre | Thesis | th |
| mods.physicalLocation | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา | th |
| thesis.degree.department | คณะรัฐประศาสนศาสตร์ | th |
| thesis.degree.discipline | รัฐประศาสนศาสตร์ | th |
| thesis.degree.grantor | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ | th |
| thesis.degree.level | Masters | th |
| thesis.degree.name | พัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิต | th |
Files
Original bundle
1 - 1 of 1
- Name:
- nida-ths-b9533.pdf
- Size:
- 3.33 MB
- Format:
- Adobe Portable Document Format
- Description:
- Full Text

