การมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำกุดทิง จังหวัดบึงกาฬ
Publisher
Issued Date
2013
Issued Date (B.E.)
2556
Available Date
Copyright Date
Resource Type
Series
Edition
Language
tha
File Type
application/pdf
No. of Pages/File Size
121 แผ่น.
ISBN
ISSN
eISSN
Other identifier(s)
ba187555
Identifier(s)
Access Rights
Access Status
Rights
ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
Rights Holder(s)
Physical Location
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา
Bibliographic Citation
Citation
ภูมิพัฒน์ พลราช (2013). การมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำกุดทิง จังหวัดบึงกาฬ. Retrieved from: http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/3433.
Title
การมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำกุดทิง จังหวัดบึงกาฬ
Alternative Title(s)
People's participation in Kut Ting Wetland Conservation, Bungkan Province
Author(s)
Advisor(s)
Editor(s)
item.page.dc.contrubutor.advisor
Advisor's email
Contributor(s)
Contributor(s)
Abstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารูปแบบและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำกุดทิงรวมทังศึกษาถึงปัญหา อุปสรรค และแนวทางในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำกุดทิงประชากรในการวิจัยได้แก่ ประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบพื้นที่ชุ่มน้ำกุดทิงโดยใช้การสุ่มตัวอย่างแบบเป็นระบบ (Systematic Sampling) มีกลุ่มตัวอย่างจํานวน 372 ครัวเรือน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามทําการเก็บข้อมูลในช่วงเดือนสิงหาคม – ตุลาคม พ.ศ. 2556
ผลการวิจัย พบว่า กลุ่มตัวอย่างเกินกว่ากึ่งหนึ่งมีความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำค่อนข้างสูง ส่วนใหญ่มีทัศนคติต่อการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำในเชิงบวก มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำในระดับปานกลาง มีส่วนร่วมในการใช้ประโยชน์มากที่สุด ขณะที่มีส่วนร่วมในการตรวจสอบและติดตามผลน้อยที่สุด ปัญหาและอุปสรรคที่สําคัญในการอนุรักษ์พื้นที่ ได้แก่ การลักลอบจับสัตว์น้ำและการบุกรุกพื้นที่ชุ่มน้ำ โดยมีข้อเสนอแนะ คือ ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดําเนินการอนุรักษ์อย่างจริงจัง ทั้งนี้ ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กบการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ ที่ระดับนัยสําคัญทางสถิติ 0.05 ได้แก่ เพศ สถานภาพในครอบครัว ระดับการศึกษา การมีตําแหน่งทางสังคม การได้รับการฝึกอบรม ระยะทางจากพื้นที่ชุ่มน้ำ และความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ
ดังนั้น แนวทางในการส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ คือ การสร้างและกระตุ้นจิตสํานึกให้กับประชาชนและการให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ผู้นําชุมชน ทั้งโดยการประชาสัมพันธ์และการจัดฝึกอบรม
ผลการวิจัย พบว่า กลุ่มตัวอย่างเกินกว่ากึ่งหนึ่งมีความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำค่อนข้างสูง ส่วนใหญ่มีทัศนคติต่อการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำในเชิงบวก มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำในระดับปานกลาง มีส่วนร่วมในการใช้ประโยชน์มากที่สุด ขณะที่มีส่วนร่วมในการตรวจสอบและติดตามผลน้อยที่สุด ปัญหาและอุปสรรคที่สําคัญในการอนุรักษ์พื้นที่ ได้แก่ การลักลอบจับสัตว์น้ำและการบุกรุกพื้นที่ชุ่มน้ำ โดยมีข้อเสนอแนะ คือ ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดําเนินการอนุรักษ์อย่างจริงจัง ทั้งนี้ ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กบการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ ที่ระดับนัยสําคัญทางสถิติ 0.05 ได้แก่ เพศ สถานภาพในครอบครัว ระดับการศึกษา การมีตําแหน่งทางสังคม การได้รับการฝึกอบรม ระยะทางจากพื้นที่ชุ่มน้ำ และความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ
ดังนั้น แนวทางในการส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ คือ การสร้างและกระตุ้นจิตสํานึกให้กับประชาชนและการให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ผู้นําชุมชน ทั้งโดยการประชาสัมพันธ์และการจัดฝึกอบรม
Table of contents
Description
วิทยานิพนธ์ (วท.ม. (การจัดการสิ่งแวดล้อม))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2556.