การศึกษา การสื่อสารเพื่อจัดการความขัดแย้ง: วาทกรรม พื้นที่สาธารณะ ประชาธิปไตย กรณีศึกษา รายการเถียงให้รู้เรื่องทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส
Publisher
Issued Date
2017
Issued Date (B.E.)
2560
Available Date
Copyright Date
Resource Type
Series
Edition
Language
tha
File Type
application/pdf
No. of Pages/File Size
150 แผ่น
ISBN
ISSN
eISSN
Other identifier(s)
b199261
Identifier(s)
Access Rights
Access Status
Rights
ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
Rights Holder(s)
Physical Location
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา
Bibliographic Citation
Citation
ชนาภา เมืองงามสมบูรณ์ (2017). การศึกษา การสื่อสารเพื่อจัดการความขัดแย้ง: วาทกรรม พื้นที่สาธารณะ ประชาธิปไตย กรณีศึกษา รายการเถียงให้รู้เรื่องทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส. Retrieved from: https://repository.nida.ac.th/handle/662723737/6291.
Title
การศึกษา การสื่อสารเพื่อจัดการความขัดแย้ง: วาทกรรม พื้นที่สาธารณะ ประชาธิปไตย กรณีศึกษา รายการเถียงให้รู้เรื่องทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส
Alternative Title(s)
Communication for conflict management : discourses public sphere democracy in case study program "Policydebate" in Thai PBS
Author(s)
Advisor(s)
Editor(s)
item.page.dc.contrubutor.advisor
Advisor's email
Contributor(s)
Contributor(s)
Abstract
บทความชิ้นนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทำการศึกษาเกี่ยวกับการสื่อสารเพื่อจัดการความขัดแย้ง ที่ เกี่ยวข้องกับวาทกรรม พื้นที่สาธารณะ และประชาธิปไตย ผ่านการนำเสนอจากสื่อมวลชนในรูปแบบ ของรายการโทรทัศน์ กรณีศึกษา รายการเถียงให้รู้เรื่อง ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส งานวิจัยเก็บ ข้อมูลจากยูทูปโดยเลือกเก็บรายการ 5 ตอนที่มียอดชมสูงสุดและเป็นตัวแทนของประเด็นที่รายการนี้ มักจะนำเสนอเป็นหลักสามประเด็นได้แก่ เรื่องการเมือง สังคมและกฎหมาย การวิจัยครั้งนี้เป็นการ วิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ดำเนินการตามแนววาทกรรมวิเคราะห์เชิงวิพากษ์ (Critical Discourse Analysis) ประกอบด้วยการศึกษาใน 3 มิติได้แก่ การวิเคราะห์ตัวบท (Text Analysis) ซึ่งด าเนินการวิจัยโดยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) และการวิเคราะห์เนื้อหา และการใช้กลวิธีในการโน้มน้าว การศึกษาภาคปฏิบัติทางวาทกรรม (Discursive Practice) ซึ่งเป็น การวิเคราะห์การผลิตและรูปแบบของรายการ รวมถึงมิติการวิเคราะห์สภาพบริบททางสังคม วัฒนธรรม (Sociocultural Practice) ที่ได้ข้อมูลจาก การวิจัยเอกสาร (Documentary Research) ทั้งหมดนี้เพื่อให้เกิดความเข้าใจรูปแบบและกลไกการสื่อสารเพื่อจัดการความขัดแย้ง ผลการศึกษา พบว่า รูปแบบการสื่อสารของรายการเถียงให้รู้เรื่องแสดงให้เห็นความพยายามสร้างเวทีการ แลกเปลี่ยนที่มีความเป็นประชาธิปไตย ให้พื้นที่กับคนที่มีความคิดเห็นหลากหลาย โดยมีพิธีกร หรือ ที่เรียกว่าผู้อำนวยการสื่อสารเป็นผู้จัดการให้การถกเถียงเป็นไปบนพื้นฐานประเด็นเดียวกัน บนกฎเกณฑ์ของการสื่อสารอย่างมีความเป็นเหตุเป็นผล ผลการวิเคราะห์เนื้อหาของตัวบทพบว่ามี ประเด็นที่แตกต่างไปในแต่ละสัปดาห์แต่ในการโต้เถียงมักมีการอ้างวาทกรรมกระแสหลักกับวาทกรรม กระแสรองที่ซ้ าๆ กัน เช่น วาทกรรมความเป็นไทย-ความสงบเรียบร้อย-การรู้หน้าที่มีวินัย ปะทะกับ วาทกรรมประชาธิปไตย-สิทธิเสรีภาพ-ความเท่าเทียมกัน ในส่วนของกลไกการจัดการความขัดแย้งแต่ ละฝ่ายใช้การอ้างคำพูดของคนอื่น การตั้งคำถามวาทศิลป์ การให้นิยามเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้ ตนเองและลดความน่าเชื่อถือของคนอื่น โดยมีผู้อำนวยการสื่อสาร ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ชมในรายการ เป็นเสมือนกรรมการ ทั้งรูปแบบการจัดรายการและวาทกรรมที่ปรากฏแสดงให้เห็นถึงความพลวัตใน วาทกรรมแสดงการสร้างตัวตน อัตลักษณ์ ชุดความรู้ และชุดความจริงอันเกี่ยวข้องประเด็นขัดแย้ง ต่างๆ ที่ปรากฏร่วมกันอยู่ในสังคมไทย
Table of contents
Description
วิทยานิพนธ์ (ศศ.ม. (การสื่อสารเพื่อกิจการภาครัฐและภาคเอกชน))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2560