การใช้แพลงก์ตอนสัตว์เป็นตัวชี้วัดการไหลเวียนของมวลน้ำในพื้นที่ป่าชายเลน ศูนย์ศึกษาการเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี ตำบลปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
Publisher
Issued Date
2019
Issued Date (B.E.)
2562
Available Date
Copyright Date
Resource Type
Series
Edition
Language
tha
File Type
application/pdf
No. of Pages/File Size
85 แผ่น
ISBN
ISSN
eISSN
Other identifier(s)
b207914
Identifier(s)
Access Rights
Access Status
Rights
ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
Rights Holder(s)
Physical Location
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา
Bibliographic Citation
Citation
ทัชชา พรรณรักษ์ (2019). การใช้แพลงก์ตอนสัตว์เป็นตัวชี้วัดการไหลเวียนของมวลน้ำในพื้นที่ป่าชายเลน ศูนย์ศึกษาการเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี ตำบลปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์. Retrieved from: https://repository.nida.ac.th/handle/662723737/6402.
Title
การใช้แพลงก์ตอนสัตว์เป็นตัวชี้วัดการไหลเวียนของมวลน้ำในพื้นที่ป่าชายเลน ศูนย์ศึกษาการเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี ตำบลปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
Alternative Title(s)
Using zooplankton as an indicator for water circulation in mangrove area of Sirinath Rajini magrove Ecosystem Learning Center, Pranburi, Prachuab Kirikhan Province
Author(s)
Advisor(s)
Editor(s)
item.page.dc.contrubutor.advisor
Advisor's email
Contributor(s)
Contributor(s)
Abstract
การศึกษาแพลงก์ตอนสัตว์เพื่อใช้เป็นดัชนีชี้วัดการไหลเวียนของมวลน้ำในศูนย์ศึกษา เรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในช่วงเดือน กันยายน พ.ศ. 2559 และเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 ซึ่งเป็นช่วงก่อนและหลังการขุดลอกร่องน้ำเพื่อ แก้ไขปัญหาการแลกเปลี่ยนของมวลน้ำในป่าชายเลนกับแม่น้ำปราณบุรีที่ได้ดำเนินการในช่วงเดือน ธันวาคม พ.ศ. 2559 โดยใช้ถุงลากแพลงก์ตอนขนาดตา 100 และ 330 ไมโครเมตร เพื่อศึกษาให้ ครอบคลุมทั้งกลุ่มแพลงก์ตอนสัตว์ขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ทำการลากในแนวระดับในสถานี ศึกษาทั้งสิ้น 5 สถานี คือ ด้านในของป่าชายเลน (สถานี A และ B)คลองย่อยที่มีทางน้ำเข้าสู่พื้นที่ป่าชายเลน (สถานี C และ D) และบริเวณปากคลองย่อยที่เชื่อมกับแม่น้ำปราณบุรี(สถานีE) ผลการศึกษาพบว่าปัจจยัสิ่งแวดล้อม เช่น อุณหภูมิ ความเค็ม และความเป็นกรด-เบสของน้ำทะเล ระหว่างช่วงก่อนและหลังการขุดลอกร่องน้ำมีความแตกต่างกัน (p< 0.05) และพบว่าความเค็มและปริมาณออกซิเจนละลายระหว่างสถานีมีความแตกต่างกัน (p< 0.05) ส่วนปริมาณแพลงก์ตอนสัตว์ ไม่มีความแตกต่างกันทั้งระหว่างช่วงเวลาและระหว่างสถานีอย่างไรก็ตาม ความหนาแน่นของแพลงก์ตอนสัตว์ในช่วงหลงัการขุดลอกร่องน้ำมีค่าสูงกว่าช่วงก่อนการขุดลอกร่องน้ำเล็กน้อย ความหลากหลายของแพลงก์ตอนสัตว์พบท้งัสิ้น 43กลุ่ม โดยกลุ่มหลักที่พบคือโคพีพอดทั้ง 3 กลุ่ม ได้แก่คาลานอยด์โคพีพอด ไซโคลพอยด์โคพีพอด และฮาร์แพคทิคอยด์โคพีพอด รวมทั้งตัวอ่อน ระยะนอเพลียสของโคพีพอด นอกจากนี้ยังพบว่าแพลงก์ตอนสัตวก์ลุ่มที่ชอบอาศัยอยู่ในทะเลเช่น กลุ่มไฮโดรเมดูซีและกลุ่มหนอนธนูมีปริมาณเพิ่มขึ้นในบริเวณด้านในของป่าชายเลนในช่วงหลังการขุดลอกร่องน้ำ ซึ่งสะท้อนถึงการไหลเวียนของน้ำจากด้านนอกเข้าสู่พื้นที่ป่าได้ดีขึ้น อีกทั้งยังพบแพลงก์ตอนสัตวก์ลุ่มลูกสัตว์น้ำที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ เช่น ลูกกุ้ง ลูกปู ลูกหอย และลูกปลา ในบริเวณศึกษา บ่งบอกถึงความสำคัญ ของป่าชายเลนในการเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน
Table of contents
Description
วิทยานิพนธ์ (วท.ม. (การจัดการสิ่งแวดล้อม))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2562