การกำหนดและการนำแผน 3 เขตยุทธศาสตร์การรณรงค์เลือกตั้งไปปฏิบัติ : กรณีวิจัยปฏิบัติการในเขตเลือกตั้ง ค จังหวัดนครราชสีมา
dc.contributor.advisor | แสวง รัตนมงคลมาศ, อาจารย์ที่ปรึกษา | th |
dc.contributor.author | วิวัฒน์ ศัลยกำธร | th |
dc.date.accessioned | 2014-05-05T09:26:09Z | |
dc.date.available | 2014-05-05T09:26:09Z | |
dc.date.issued | 1993 | th |
dc.date.issuedBE | 2536 | th |
dc.description | วิทยานิพนธ์ (พบ.ม. (พัฒนาสังคม))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2536. | th |
dc.description.abstract | การวิจัยเรื่อง การกำหนดและการนำแผน 3 เขตยุทธศาสตร์การรณรงค์เลือกตั้งไปปฏิบัตินี้ เป็นการวิจัยปฏิบัติการที่ผู้วิจัยได้เข้าร่วมปฏิบัติการในศูนย์อำนวยการเลือกต้งของพรรคพลังธรรม ในเขตจังหวัดนครราชสีมา ช่วงวันที่ 15 สิงหาคม ถึง 13 กันยายน 2535 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำความเข้าใจและทดสอบแนวคิด 3 เขตยุทธศาสตร์ ว่าจะสามารถกำหนดเป็นแผนปฏิบัติการและนำไปปฏิบัติได้อย่างไร มีปัญหา/อุปสรรค และข้อจำกัดอย่างไรบ้าง ภายใต้บริบทวัฒนธรรมของชนบทภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย. | th |
dc.description.abstract | แนวคิดหลักที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ แนวคิดสามเขตยุทธศาสตร์ของการรณรงค์ โดยมีแนวคิดทฤษฎีทางด้านสังคม และทางด้านการเมืองเป็นส่วนประกอบในการอธิบายพฤติกรรมการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งของคนไทย จากผลการวิจัยปฏิบัติการครั้งนี้สามารถสรุปผลได้สองประการคือ | th |
dc.description.abstract | ประการแรก ในเชิงทฤษฎีอาจสรุปได้ดังนี้ | th |
dc.description.abstract | 1.1 พฤติกรรมทางการเมืองของคนชนบทเขต 3 จังหวัดนครราชสีมา เป็นจริงตามแนวคิดทฤษฎี 3 เขตยุทธศาสตร์ กล่าวคือ ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งที่สังกัดพรรคการเมืองต่าง ๆ ทั้งฝ่ายคู่แข่งมีอยู่เป็นจำนวนน้อย ส่วนใหญ่เป็นพวกเฉยเมยไร้เดียงสา ซึ่งมักจะถูกหัวคะแนนชักจูงไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งด้วยวิธีการต่าง ๆ ทั้งแนวทางสุจริต น้ำดี และแนวทางทุจริตน้ำเน่า ดังนั้น แนวคิดทฤษฎีนี้จึงนับว่ามีประโยชน์ในการจำแนกกลุ่มเป้าหมาย และพื้นที่เป้าหมายของการรณรงค์ได้อย่างถูกต้องชัดเจน จนถึงหน่วยย่อยระดับตำบล นอกจากนั้นยังสามารถล่วงรู้ถึงพฤติกรรมการตัดสินใจลงคะแนนเสียงเลือกตั้งของกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างนั้น อันเป็นผลทำให้ทีมงานรณรงค์สามารถกำหนดยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีเข้าปฏิบัติการต่อกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ได้อย่างสอดคล้องกับเหตุผลการตัดสินใจของประชาชน ผู้มีสิทธิออกเสียงได้อย่างเหมาะสมในแต่ละช่วงเวลาของการรณรงค์ | th |
dc.description.abstract | 1.2 การดำเนินการรณรงค์ภายใต้แนวคิด 3 เขตยุทธศาสตร์นี้ เหมาะสมสำหรับผู้สมัครที่มีฐานมวลชนและการหนุนช่วยทางด้านการเมืองที่มั่นคง และกว้างขวางพอสมควร และจะต้องมีฐานทางเศรษฐกิจและการหนุนช่วยทางเศรษฐกิจที่มั่นคงและกว้างขวางอย่างเพียงพอแก่ค่าใช้จ่ายในการรณรงค์ตามแผน นอกจากนี้ยังควรมีสถานภาพการแข่งขันอยู่บ้าง อย่างน้อยในระดับที่พอแข่งขันได้ มิเช่นนั้นเมื่อจำแนกเขตยุทธศาสตร์แล้วก็จะพบแต่เขตเขา ซึ่งไม่สามารถจัดองค์กรการรณรงค์เป็น 3 เขตได้ตามแนวคิดนี้ | th |
dc.description.abstract | 1.3 นอกจากนี้ ยังพบว่าในทัศนะของคนในเขตเลือกตั้ง ค.แล้ว "การเลือกตั้งมิได้ถือเป็นกิจกรรมทางการเมือง" แต่เป็นเพียงกิจกรรมทางสังคมอย่างหนึ่ง เช่นเดียวกับการไปร่วมงานบุญบวชนาค งานแต่ง ฯลฯ เท่านั้น เพราะว่าการไปเลือกตั้งก็เป็นเพียงการตอบแทนผู้ที่ให้การอุปถัมภ์ค้ำชูและให้ประโยชน์แก่ตนเท่านั้น | th |
dc.description.abstract | ประการที่สอง ในเชิงการเคลื่อนไหวทางการเมือง. | th |
dc.description.abstract | งานวิจัยครั้งนี้ ทำให้ยืนยันจุดอ่อนของพรรคการเมืองต่าง ๆ ที่ทำงานการเมืองอย่างไร้ระบบและไม่ต่อเนื่อง ทุกพรรคการเมืองในเขตการวิจัยไม่สนใจจัดตั้งสาขาพรรคและการสร้างฐานมวลชนของพรรคอย่างต่อเนื่องเลย จะเข้าหาประชาชนเฉพาะฤดูกาลหาเสียงเท่านั้น และในการรณรงค์หาเสียงนั้น ทุกพรรคการเมืองยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับการรณรงค์อย่างเป็นระบบ และยังไม่เข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างการรณรงค์ด้านกว้างและด้านลึก การนำวิชาการด้านการรณรงค์ทางการเมืองเข้าไปใช้ในการหาเสียง กระทำเฉพาะเพื่อตรวจสอบฐานคะแนนนิยมเท่านั้น ยังไม่สามารถใช้ประโยชน์ในการกำหนดยุทธวิธีในการรณรงค์ได้อย่างกว้างขวาง. | th |
dc.description.abstract | ในเรื่องนี้ สถาบันการศึกษาควรได้มีบทบาทให้ความรู้ความเข้าใจ และพัฒนาบุคลากรของพรรคการเมืองต่าง ๆ ให้มีคุณภาพ และสามารถทำงานการเมืองได้อย่างเป็นระบบ ตามแนวทางในระบอบประชาธิปไตยของอารยะประเทศ | th |
dc.format.extent | ก-ฉ, [130] แผ่น | th |
dc.format.mimetype | application/pdf | th |
dc.identifier.doi | 10.14457/NIDA.the.1993.12 | |
dc.identifier.uri | http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/1719 | th |
dc.language.iso | tha | th |
dc.publisher | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ | th |
dc.rights | ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0) | th |
dc.subject | สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร | th |
dc.subject | การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง | th |
dc.subject | การนำแผนไปปฏิบัติ | th |
dc.subject.lcc | JQ 1749 .A53N37 ว37 | th |
dc.subject.other | สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร -- ไทย -- นครราชสีมา -- การเลือกตั้ง | th |
dc.title | การกำหนดและการนำแผน 3 เขตยุทธศาสตร์การรณรงค์เลือกตั้งไปปฏิบัติ : กรณีวิจัยปฏิบัติการในเขตเลือกตั้ง ค จังหวัดนครราชสีมา | th |
dc.title.alternative | Formulation and implementation of three strategic areas of election campaign plan : a case of action research in constituency C Nakornratchasima Province | th |
dc.type | text--thesis--master thesis | th |
mods.genre | Thesis | th |
mods.physicalLocation | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา | th |
thesis.degree.department | คณะพัฒนาสังคม | th |
thesis.degree.discipline | การปฏิบัติการทางสังคม | th |
thesis.degree.grantor | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ | th |
thesis.degree.level | Masters | th |
thesis.degree.name | พัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิต | th |
Files
Original bundle
1 - 1 of 1
- Name:
- nida-ths-b9866.pdf
- Size:
- 2.16 MB
- Format:
- Adobe Portable Document Format
- Description:
- Full Text