สิทธิชุมชนในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลและยั่งยืน: ศึกษาความเหมาะสมของการใช้ทฤษฎีของ Elinor Ostrom ในประเทศไทย
Publisher
Issued Date
2017
Issued Date (B.E.)
2560
Available Date
Copyright Date
Resource Type
Series
Edition
Language
tha
File Type
application/pdf
No. of Pages/File Size
424 แผ่น
ISBN
ISSN
eISSN
Other identifier(s)
b201157
Identifier(s)
Access Rights
Access Status
Rights
ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
Rights Holder(s)
Physical Location
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา
Bibliographic Citation
Citation
อรทัย อินต๊ะไชยวงค์ (2017). สิทธิชุมชนในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลและยั่งยืน: ศึกษาความเหมาะสมของการใช้ทฤษฎีของ Elinor Ostrom ในประเทศไทย. Retrieved from: https://repository.nida.ac.th/handle/662723737/5846.
Title
สิทธิชุมชนในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลและยั่งยืน: ศึกษาความเหมาะสมของการใช้ทฤษฎีของ Elinor Ostrom ในประเทศไทย
Alternative Title(s)
Community Rights in Balanced and Sustainable Management of Natural Resources and Environment with Balance and Sustainable: Study on Applicability of Elinor Ostrom’s Theory in Thailand
Author(s)
Advisor(s)
Editor(s)
item.page.dc.contrubutor.advisor
Advisor's email
Contributor(s)
Contributor(s)
Abstract
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ได้บัญญัติรับรองสิทธิชุมชนในการจัดการ บำรุงรักษา
และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และความหลากหลายทางชีวภาพอย่างสมดุล
และยั่งยืน ตั้งแต่รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 จนถึงรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 และสิทธิชุมชนได้รับการออกแบบ
ตามรัฐธรรมนูญให้มีสภาพบังคับใช้ได้ทันที แต่ในทางปฏิบัติหลักการสิทธิชุมชนในการจัดการ
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมยังไม่ได้รับการตระหนักอย่างแท้จริง
เนื่องจากระบบกฎหมายของประเทศไทยยอมรับสภาพบุคคลมี2 ประเภทเท่านั้น คือ บุคคล ธรรมดาและนิติบุคคล และให้ความสำคัญสิทธิของปัจเจกบุคคลและสิทธิของรัฐ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ ระบบกรรมสิทธิ์มีเพียง 2 ประเภท คือ กรรมสิทธิ์ของรัฐและกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินส่วนบุคคล จึงทำให้ เกิดปัญหาการปรับใช้และการตีความกฎหมายรับรองสถานะของชุมชนมีลักษณะเป็นสภาพบุคคล หรือไม่ ปัญหาคำจำกัดความคำว่า “ชุมชน” ยังไม่ชัดเจนในทางปฏิบัติตามกฎหมาย จึงส่งผลทำให้ การปรับใช้และการตีความรับรองสถานะสิทธิชุมชนมีข้อจำกัดในทางกฎหมาย นอกจากนี้กฎหมายที่ เกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำหนดให้การจัดการทรัพยากรธรรมชาติต้อง ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานของรัฐ ซึ่งไม่มีเนื้อหารับรองสิทธิของชุมชนในการจัดการ และใช้ประโยชน์ จากทรัพยากรธรรมชาติตามรัฐธรรมนูญ จึงเป็นเหตุให้เกิดข้อขัดแย้งในการนำแนวคิดเกี่ยวกับ การจัดการ และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระหว่างหน่วยงานรัฐ เจ้าหน้าที่รัฐที่ยังคงบังคับใช้กฎหมายอีกด้านหนึ่ง และประชาชนหรือชุมชนอ้างสิทธิของตนตาม รัฐธรรมนูญในด้านอื่น ๆ จึงเกิดข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานรัฐกับประชาชนหรือชุมชนขึ้นสู่การ พิจารณาของศาลมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การปรับใช้และการตีความรับรองสถานะของชุมชนและ สถานะสิทธิชุมชนโดยศาลไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ยังไม่มีความชัดเจนที่หยิบยกประเด็นสิทธิ ชุมชนในการพิจารณาพิพากษาขององค์กรตุลาการเป็นประเด็นหลัก
ผลการศึกษาพบว่า หลักการสิทธิชุมชนตามรัฐธรรมนูญของไทยตั้งอยู่บนฐานความคิดว่า ชุมชนเป็นหน่วยหนึ่งของสังคมที่มีตัวตนทางกายภาพตามข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นผลจากพัฒนาการทาง ประวัติศาสตร์ และความมีอยู่ของชุมชนเป็นข้อเท็จจริงที่รับรู้ได้โดยทั่วไปแม้ไม่ได้รับการรับรองไว้ ในกฎหมายเป็นการเฉพาะ ดังนั้น “ชุมชน” จึงมีสถานะเป็นนิติบุคคลโดยสภาพ (Real Corporation Theory) ชุมชนย่อมมีสิทธิและอ านาจหน้าที่ได้ตามสภาพความเป็นจริง สอดคล้องกับทฤษฎีนิติบุคคล โดยสภาพของ Otto von Gierke และสิทธิชุมชนในการจัดการ บำรุงรักษา และใช้ประโยชน์จาก ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตามรัฐธรรมนูญมีลักษณะเป็นทรัพยสิทธิตามกฎหมายมหาชน เหนือทรัพย์สินสาธารณสมบัติของแผ่นดิน เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญในลักษณะสิทธิทางทรัพย์สิน ในการจัดการ บำรุงรักษา และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมการใช้สิทธิของ ชุมชนในฐานะผู้ทรงสิทธิส่วนรวม ไม่ใช่เป็นการใช้สิทธิแสวงหาประโยชน์เชิงพาณิชย์หรือกรรมสิทธิ์ เด็ดขาดท านองเดียวกับกรรมสิทธิ์ของเอกชนเหนือทรัพย์สิน แต่เป็นการใช้สิทธิจัดการ บำรุงรักษา และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภายใต้ความสมดุลและยั่งยืน ข้อความคิดนี้ ได้ขัดแย้งกับแนวคิดการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยตามแนวคิดให้รัฐ ควบคุม ดูแลทรัพยากรธรรมชาติเพียงฝ่ายเดียว หรือรัฐให้เอกชนสัมปทานหรือแปรรูปเป็นรัฐวิสาหกิจ ตามแนวคิดของ Garrett Hardin แต่สอดคล้องกับแนวคิดให้ชุมชนเป็นผู้จัดการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมของ Elinor Ostrom
เมื่อนำแนวคิดของ Elinor Ostrom มาปรับใช้ พบว่า การที่จะรับรองและคุ้มครองให้สิทธิ ชุมชนมีผลในทางปฏิบัติอย่างแท้จริงนั้น จำเป็นต้องตีความรับรองสถานะชุมชนในฐานะเป็นผู้ทรงสิทธิ ตามรัฐธรรมนูญ โดยการนำเอาทฤษฎี “นิติบุคคลโดยสภาพ”มาสนับสนุน นอกจากนี้ ควรกำหนด นิยาม “ชุมชน”ให้มีความชัดเจน แต่ไม่จำต้องกำหนดรายละเอียดลงในกฎหมายทั้งหมดเพราะจะเป็น การจำกัดความหลากหลายที่เกิดขึ้นตามพัฒนาการทางสังคม โดยควรกำหนดเพียงตัวอย่างคำนิยาม และควรกำหนดคำนิยามหรือตีความรับรองสถานะสิทธิชุมชนในการจัดการ บำรุงรักษา และใช้ ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมือง ใช้ร่วมกัน ในลักษณะเป็นทรัพยสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ทำนองเดียวกับ ภารจำยอม สิทธิอาศัย หรือสิทธิ เหนือพื้นดิน สิทธิเก็บกิน หรือภาระติดพันในอสังหาริมทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ภายใต้เงื่อนไขการใช้สิทธิชุมชนโดยไม่ขัดต่อความสมดุลและยั่งยืน ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดดุลยภาพระหว่าง การสงวนรักษาทรัพยากรธรรมชาติไว้เพื ่อประโยชน์สาธารณะกับการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพขั้น พื้นฐานตามรัฐธรรมนูญของบุคคลและชุมชนในการจัดการ บำรุงรักษา และใช้ประโยชน์จาก ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นับได้ว่าแนวคิดของ Elinor Ostrom สามารถใช้เป็นแนวทาง ในการคุ้มครองสิทธิชุมชนในประเทศไทยได้อย่างสอดคล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและสภาพ ความเป็นจริงในสังคมไทย
เนื่องจากระบบกฎหมายของประเทศไทยยอมรับสภาพบุคคลมี2 ประเภทเท่านั้น คือ บุคคล ธรรมดาและนิติบุคคล และให้ความสำคัญสิทธิของปัจเจกบุคคลและสิทธิของรัฐ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ ระบบกรรมสิทธิ์มีเพียง 2 ประเภท คือ กรรมสิทธิ์ของรัฐและกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินส่วนบุคคล จึงทำให้ เกิดปัญหาการปรับใช้และการตีความกฎหมายรับรองสถานะของชุมชนมีลักษณะเป็นสภาพบุคคล หรือไม่ ปัญหาคำจำกัดความคำว่า “ชุมชน” ยังไม่ชัดเจนในทางปฏิบัติตามกฎหมาย จึงส่งผลทำให้ การปรับใช้และการตีความรับรองสถานะสิทธิชุมชนมีข้อจำกัดในทางกฎหมาย นอกจากนี้กฎหมายที่ เกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำหนดให้การจัดการทรัพยากรธรรมชาติต้อง ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานของรัฐ ซึ่งไม่มีเนื้อหารับรองสิทธิของชุมชนในการจัดการ และใช้ประโยชน์ จากทรัพยากรธรรมชาติตามรัฐธรรมนูญ จึงเป็นเหตุให้เกิดข้อขัดแย้งในการนำแนวคิดเกี่ยวกับ การจัดการ และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระหว่างหน่วยงานรัฐ เจ้าหน้าที่รัฐที่ยังคงบังคับใช้กฎหมายอีกด้านหนึ่ง และประชาชนหรือชุมชนอ้างสิทธิของตนตาม รัฐธรรมนูญในด้านอื่น ๆ จึงเกิดข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานรัฐกับประชาชนหรือชุมชนขึ้นสู่การ พิจารณาของศาลมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การปรับใช้และการตีความรับรองสถานะของชุมชนและ สถานะสิทธิชุมชนโดยศาลไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ยังไม่มีความชัดเจนที่หยิบยกประเด็นสิทธิ ชุมชนในการพิจารณาพิพากษาขององค์กรตุลาการเป็นประเด็นหลัก
ผลการศึกษาพบว่า หลักการสิทธิชุมชนตามรัฐธรรมนูญของไทยตั้งอยู่บนฐานความคิดว่า ชุมชนเป็นหน่วยหนึ่งของสังคมที่มีตัวตนทางกายภาพตามข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นผลจากพัฒนาการทาง ประวัติศาสตร์ และความมีอยู่ของชุมชนเป็นข้อเท็จจริงที่รับรู้ได้โดยทั่วไปแม้ไม่ได้รับการรับรองไว้ ในกฎหมายเป็นการเฉพาะ ดังนั้น “ชุมชน” จึงมีสถานะเป็นนิติบุคคลโดยสภาพ (Real Corporation Theory) ชุมชนย่อมมีสิทธิและอ านาจหน้าที่ได้ตามสภาพความเป็นจริง สอดคล้องกับทฤษฎีนิติบุคคล โดยสภาพของ Otto von Gierke และสิทธิชุมชนในการจัดการ บำรุงรักษา และใช้ประโยชน์จาก ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตามรัฐธรรมนูญมีลักษณะเป็นทรัพยสิทธิตามกฎหมายมหาชน เหนือทรัพย์สินสาธารณสมบัติของแผ่นดิน เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญในลักษณะสิทธิทางทรัพย์สิน ในการจัดการ บำรุงรักษา และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมการใช้สิทธิของ ชุมชนในฐานะผู้ทรงสิทธิส่วนรวม ไม่ใช่เป็นการใช้สิทธิแสวงหาประโยชน์เชิงพาณิชย์หรือกรรมสิทธิ์ เด็ดขาดท านองเดียวกับกรรมสิทธิ์ของเอกชนเหนือทรัพย์สิน แต่เป็นการใช้สิทธิจัดการ บำรุงรักษา และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภายใต้ความสมดุลและยั่งยืน ข้อความคิดนี้ ได้ขัดแย้งกับแนวคิดการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยตามแนวคิดให้รัฐ ควบคุม ดูแลทรัพยากรธรรมชาติเพียงฝ่ายเดียว หรือรัฐให้เอกชนสัมปทานหรือแปรรูปเป็นรัฐวิสาหกิจ ตามแนวคิดของ Garrett Hardin แต่สอดคล้องกับแนวคิดให้ชุมชนเป็นผู้จัดการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมของ Elinor Ostrom
เมื่อนำแนวคิดของ Elinor Ostrom มาปรับใช้ พบว่า การที่จะรับรองและคุ้มครองให้สิทธิ ชุมชนมีผลในทางปฏิบัติอย่างแท้จริงนั้น จำเป็นต้องตีความรับรองสถานะชุมชนในฐานะเป็นผู้ทรงสิทธิ ตามรัฐธรรมนูญ โดยการนำเอาทฤษฎี “นิติบุคคลโดยสภาพ”มาสนับสนุน นอกจากนี้ ควรกำหนด นิยาม “ชุมชน”ให้มีความชัดเจน แต่ไม่จำต้องกำหนดรายละเอียดลงในกฎหมายทั้งหมดเพราะจะเป็น การจำกัดความหลากหลายที่เกิดขึ้นตามพัฒนาการทางสังคม โดยควรกำหนดเพียงตัวอย่างคำนิยาม และควรกำหนดคำนิยามหรือตีความรับรองสถานะสิทธิชุมชนในการจัดการ บำรุงรักษา และใช้ ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมือง ใช้ร่วมกัน ในลักษณะเป็นทรัพยสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ทำนองเดียวกับ ภารจำยอม สิทธิอาศัย หรือสิทธิ เหนือพื้นดิน สิทธิเก็บกิน หรือภาระติดพันในอสังหาริมทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ภายใต้เงื่อนไขการใช้สิทธิชุมชนโดยไม่ขัดต่อความสมดุลและยั่งยืน ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดดุลยภาพระหว่าง การสงวนรักษาทรัพยากรธรรมชาติไว้เพื ่อประโยชน์สาธารณะกับการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพขั้น พื้นฐานตามรัฐธรรมนูญของบุคคลและชุมชนในการจัดการ บำรุงรักษา และใช้ประโยชน์จาก ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นับได้ว่าแนวคิดของ Elinor Ostrom สามารถใช้เป็นแนวทาง ในการคุ้มครองสิทธิชุมชนในประเทศไทยได้อย่างสอดคล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและสภาพ ความเป็นจริงในสังคมไทย
Table of contents
Description
วิทยานิพนธ์ (น.ด.)--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2560