การวิเคราะห์เปรียบเทียบกรอบแนวทางการปฏิบัติตามมาตรฐานสากลกับการรายงานความยั่งยืนด้านความหลากหลายทางชีวภาพ : กรณีศึกษาโรงไฟฟ้าใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติแบบพลังงานความร้อนร่วมในประเทศไทย

dc.contributor.advisorจำลอง โพธิ์บุญ
dc.contributor.advisorวิสาขา ภู่จินดา
dc.contributor.authorเมธินี พงษ์ศัก
dc.date.accessioned2025-08-09T09:48:44Z
dc.date.available2025-08-09T09:48:44Z
dc.date.issued2024
dc.date.issuedBE2567
dc.descriptionการค้นคว้าอิสระ คณะบริหารการพัฒนาสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2567
dc.description.abstractการศึกษาวิจัยฉบับนี้เป็นการวิจัยเอกสารมีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ เปรียบเทียบ และนำเสนอแนวทางในประยุกต์ใช้ พัฒนา และปรับปรุงการปฏิบัติตามกรอบมาตรฐานสากล ด้านความหลากหลายทางชีวภาพกับรายงานความยั่งยืน กรณีศึกษาโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติแบบพลังงานความร้อนร่วม ใช้วิธีวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) เปรียบเทียบ(Benchmarking) วิเคราะห์ช่องว่าง (Gap Analysis) จากเอกสารรายงานความยั่งยืนและข้อมูลที่เปิดเผยสู่สาธารณะด้านความหลากหลายทางชีวภาพในช่วงปีพ.ศ. 2565–2567 ของบริษัทพลังงานโรงไฟฟ้า 6 แห่ง (ในประเทศไทย 3 แห่งและต่างประเทศ 3 แห่ง) พบว่ามาตรฐานด้านความหลากหลายทางชีวภาพทั้งสามฉบับได้แก่ GRI101 Biodiversity, TNFD และ ESRS E4 มีจุดเชื่อมโยงกันของข้อกำหนดใน 9 ประเด็นสำคัญ และ 6 มิติ จากนั้นได้พัฒนาเครื่องมือรายการตรวจสอบแบบบูรณาการทั้ง 3 มาตรฐาน (Integrated Checklist) เพื่อใช้ประเมินเนื้อหาเอกสารรายงานความยั่งยืนด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ผลการวิเคราะห์และเปรียบเทียบพบช่องว่างสำคัญ ได้แก่ การเปิดเผยข้อมูลเชิงพื้นที่ การพึ่งพาธรรมชาติ การประเมินความเสี่ยงจากธรรมชาติ การกำหนดตัวชี้วัดเชิงระบบนิเวศ และการบูรณาการกลยุทธ์ความหลากหลายทางชีวภาพระดับองค์กร โดยพบโรงไฟฟ้า (B) ในประเทศไทยและโรงไฟฟ้า (E) ในต่างประเทศมีการดำเนินการและเปิดเผยข้อมูลด้านความหลากหลายทางชีวภาพครอบคลุม 9 ประเด็นสำคัญและ 6 มิติ ผลการเปรียบเทียบแบ่งระดับการเปิดเผยรายงานความยั่งยืนด้านความหลากหลายทางชีวภาพของโรงไฟฟ้าออกเป็น 3 กลุ่มคือ กลุ่มผู้นำมีการดำเนินการเชิงรุกสอดคล้องกับมาตรฐานสากลด้านความหลากหลายทางชีวภาพทั้ง 3 มาตรฐานในมุมมองแบบบูรณาการ 9 ประเด็นสำคัญและ 6 มิติ กลุ่มปานกลางมีบางมิติที่ทำได้แต่หลายมิติ สามารถพิจารณายกระดับต่อไป และกลุ่มเริ่มต้นเพิ่งเริ่มดำเนินการประยุกต์ปฏิบัติตามกรอบการดำเนินการตามมาตรฐานสากล โดยสรุปช่องว่างและโอกาสในการพัฒนาซึ่งเรียงลำดับจากมากไปน้อย 3 อันดับแรกดังนี้ 1)การเปิดเผยข้อมูลเชิงพื้นที่ระบุพื้นที่ที่มีความอ่อนไหวทางชีวภาพ พื้นที่สำคัญตามระบบนิเวศในรายงาน การแสดงพิกัดหรือการทำแผนที่ที่ชัดเจนของพื้นที่ดำเนินงานที่อาจมีผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ 2)การพึ่งพาธรรมชาติถึงข้อมูลการวิเคราะห์ว่ากิจกรรมขององค์กรพึ่งพาระบบนิเวศด้านใด เช่น แหล่งน้ำ บริการระบบนิเวศ และเปิดเผยว่าความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติมีผลต่อการดำเนินธุรกิจขององค์กร 3)การประเมินความเสี่ยงจากธรรมชาติเชื่อมโยงความเสี่ยงและโอกาสจากธรรมชาติกับการบริหารความเสี่ยงระดับองค์กร เสนอแนวทางในการพัฒนาและปรับปรุงดังนี้ (1) เชิงนโยบายการส่งเสริมให้มีการจัดทำนโยบายและแนวทางระดับประเทศที่บูรณาการความหลากหลายทางชีวภาพเข้ากับแผนพลังงานและแผน ESG (2) เชิงกลยุทธ์การตั้งเป้าหมายที่วัดผลได้ในระดับองค์กร เช่น การไม่มีความสูญเสียสุทธิ (No Net Loss) และการพัฒนาตัวชี้วัดที่เชื่อมโยงกับเป้าหมายโลก เช่น SDG 14 SDG 15 และ GBF 2573 (3) เชิงปฏิบัติการการจัดทำแผนการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพรายพื้นที่ (BAP) การติดตามผลและเปิดเผยข้อมูลเชิงพื้นที่อย่างโปร่งใส และ (4) เชิงกฎหมายการเร่งออกกฎหมายด้านความหลากหลายทางชีวภาพที่สนับสนุนให้ภาคธุรกิจดำเนินการตามกรอบมาตรฐานสากล เช่น GRI, TNFD และ ESRS โดยสอดคล้องกับกรอบงานกรอบความหลากหลายทางชีวภาพโลกคุนหมิงมอนทรีออล ข้อเสนอแนะนี้มีเป้าหมายนำไปสู่การยกระดับความยั่งยืนของภาคพลังงานไทยในบริบทของการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติและระบบนิเวศ และยกระดับประเทศไทยสู่การดำเนินงานที่สอดคล้องกับเป้าหมายธรรมชาติเป็นบวกและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านความหลากหลายทางชีวภาพในระดับสากล
dc.format.extent5 แผ่น
dc.format.mimetypeapplication/pdf
dc.identifier.urihttps://repository.nida.ac.th/handle/123456789/7195
dc.language.isotha
dc.publisherสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
dc.rightsผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบแสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
dc.subjectโรงไฟฟ้าใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติแบบพลังงานความร้อนร่วม
dc.subject.otherโรงไฟฟ้า -- ไทย
dc.subject.otherความหลากหลายทางชีวภาพ
dc.subject.otherความยั่งยืน
dc.titleการวิเคราะห์เปรียบเทียบกรอบแนวทางการปฏิบัติตามมาตรฐานสากลกับการรายงานความยั่งยืนด้านความหลากหลายทางชีวภาพ : กรณีศึกษาโรงไฟฟ้าใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติแบบพลังงานความร้อนร่วมในประเทศไทย
dc.typetext::report::research report
mods.genreIndependent Study
thesis.degree.departmentคณะบริหารการพัฒนาสิ่งแวดล้อม
thesis.degree.disciplineศาสตร์และการจัดการความยั่งยืน
thesis.degree.disciplineการจัดการสิ่งแวดล้อม
thesis.degree.grantorสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
thesis.degree.levelMasters
thesis.degree.nameวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Files

Original bundle

Now showing 1 - 2 of 2
Thumbnail Image
Name:
บทสรุปสำหรับผู้บริหาร-เมธินี พงษ์ศัก.pdf
Size:
121.4 KB
Format:
Adobe Portable Document Format
No Thumbnail Available
Name:
Permission Form for IS on Websites-เมธินี พงษ์ศัก.pdf
Size:
216.42 KB
Format:
Adobe Portable Document Format

License bundle

Now showing 1 - 1 of 1
No Thumbnail Available
Name:
license.txt
Size:
1.71 KB
Format:
Item-specific license agreed upon to submission
Description: