การศึกษาความเป็นไปได้และปัจจัยที่ควรพิจารณาในการขอรับรองมาตรฐาน ISCC PLUS ของบริษัทผลิตบบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนตัวแห่งหนึ่ง
dc.contributor.advisor | จุฑารัตน์ ชมพันธุ์ | |
dc.contributor.advisor | พรพรหม สุธาทร | |
dc.contributor.author | ชนิดา ตาลพร้า | |
dc.date.accessioned | 2025-08-09T08:16:14Z | |
dc.date.available | 2025-08-09T08:16:14Z | |
dc.date.issued | 2024 | |
dc.date.issuedBE | 2567 | |
dc.description.abstract | ปัจจุบันโลกเผชิญกับวิกฤตการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมที่ทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะปัญหาขยะพลาสติกที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบนิเวศและสุขภาพของมนุษย์ จากการเพิ่มขึ้นของปริมาณขยะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว (Single-use Plastics) ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากภาคอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์พลาสติกส่งผลให้เกิดแรงกดดันทั้งภาคนโยบายและภาคตลาดในการเร่งปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตให้สอดคล้องกับหลักการของเศรษฐกิจหมุนเวียนและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ระบบการรับรอง ISCC PLUS (International Sustainability and Carbon Certification PLUS) จึงเป็นกลไกหนึ่งที่สำคัญที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลจากฝั่งยุโรป เพื่อช่วยส่งเสริมการใช้วัตถุดิบหมุนเวียน ลดการพึ่งพาทรัพยากรฟอสซิล และการสร้างระบบการผลิตที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ในทุกขั้นตอนของห่วงโซ่อุปทานอย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ประกอบการในประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนตัว ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ควรได้รับการผลักดันให้เข้าสู่ระบบการรับรองดังกล่าว เนื่องจากข้อจำกัดด้านความรู้ ความเข้าใจ และการประยุกต์ใช้ข้อกำหนดของมาตรฐาน ISCC PLUS ในบริบทขององค์กรจริง การศึกษาครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเป็นไปได้และความพร้อมของบริษัทผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนตัวแห่งหนึ่งในการเข้าสู่กระบวนการขอรับรอง ISCC PLUS โดยมีเป้าหมายเพื่อ (1) ศึกษาวิธีการดำเนินงานของบริษัทในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่การรับรอง (2) วิเคราะห์ช่องว่างเมื่อเปรียบเทียบกับข้อกำหนดของ ISCC PLUS (3) ศึกษาปัจจัยภายในและภายนอกที่ส่งผลต่อความสำเร็จขององค์กรในการผ่านการรับรอง และ (4) เสนอแนะแนวทางการพัฒนาระบบและกลยุทธ์ที่เหมาะสมสำหรับการดำเนินการรับรองในอนาคต ในการศึกษาครั้งนี้ได้มีการเก็บข้อมูลใช้วิธีการวิเคราะห์เอกสารที่เกี่ยวข้องกับระบบการจัดการภายในของบริษัท ประกอบกับการสัมภาษณ์เชิงลึกแบบกึ่งโครงสร้างกับผู้บริหารที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางแผน การดำเนินการ และควบคุมระบบการผลิต รวมถึงมีส่วนในการผลักดันให้เกิดการรับรองมาตรฐานนี้ โดยผลการเก็บข้อมูลจะนำไปวิเคราะห์โดยใช้วิธีการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content Analysis) เพื่อสังเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ และดำเนินการวิเคราะห์ช่องว่าง (Gap Analysis) เพื่อเปรียบเทียบระหว่างสถานะปัจจุบันของบริษัทกับข้อกำหนดของมาตรฐาน ISCC PLUS นอกจากนี้ยังใช้การวิเคราะห์แนวปฏิบัติที่ดี (Benchmarking) จากองค์กรที่ได้รับการรับรองแล้ว เพื่อเปรียบเทียบและเสนอแนะแนวทางปฏิบัติที่ดีสำหรับการพัฒนาองค์กรในกรณีศึกษา จากผลการศึกษาพบว่าบริษัทมีจุดแข็งในด้านระบบการจัดการที่มีความเป็นระบบแบบแผน โดยเฉพาะการนำระบบ ISO 14001 และ BRCGS Packaging Materials มาบูรณาการ ซึ่งมีองค์ประกอบหลายประการที่สามารถประยุกต์ใช้รองรับข้อกำหนดของ ISCC PLUS ได้ เช่น ระบบ PDCA การควบคุมเอกสาร และระบบตรวจสอบย้อนกลับในระดับรอบการผลิตของวัตถุดิบ อย่างไรก็ตามยังพบข้อจำกัดสำคัญในเรื่องของระบบแยกวัตถุดิบตามสถานะรับรอง และการบริหารจัดการตามแนวทางดุลยภาพมวล (Mass Balance Approach) ที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้พบว่าบุคคลากรยังไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับข้อกำหนดและหลักการของ ISCC PLUS ทำให้ทราบถึงความสำคัญของการให้ความรู้และการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ จากผลการศึกษาดังกล่าว จึงเสนอว่าบริษัทควรดำเนินการเสริมสร้างองค์ความรู้และประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับความยั่งยืน รวมถึงมาตรฐาน ISCC PLUS ให้แก่บุคลากรในทุกระดับ และตั้งเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงการพัฒนาระบบบริหารจัดการข้อมูลที่สามารถเชื่อมโยงการดำเนินงานระหว่างแผนกต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมจัดทำแผนการบริหารจัดการวัตถุดิบที่สอดคล้องกับหลักการ Mass Balance และแนวคิด Circular Economy อย่างชัดเจน เพื่อสร้างความพร้อมและเพิ่มความเป็นไปได้ในการขอรับรองมาตรฐานดังกล่าวได้สำเร็จในระยะยาว รวมถึงการติดตามข่าวสาร ความเป็นปัจจุบันสถาณการณ์ที่สอดคล้องเรื่องธุรกิจและสิ่งแล้วล้อมเช่น สถาณการณ์การจัดเก็บภาษีพลาสติก (Plastic Tax) เพื่อให้องค์กรสามารถปรับตัวได้ทันกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลง และประกอบการตัดสินใจในการกำหนดทิศทางในอนาคต ทั้งนี้ข้อเสนอแนะจากการศึกษาครั้งนี้สามารถประยุกต์ใช้เป็นแนวทางในการเตรียมความพร้อมสำหรับผู้ประกอบการรายอื่นในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์พลาสติก ตลอดจนใช้ประกอบการวางนโยบายของภาครัฐในการส่งเสริมระบบการผลิตที่ยั่งยืนในประเทศไทย | |
dc.format.extent | 4 แผ่น | |
dc.format.mimetype | application/pdf | |
dc.identifier.uri | https://repository.nida.ac.th/handle/123456789/7191 | |
dc.language.iso | tha | |
dc.publisher | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ | |
dc.rights | ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบแสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0) | |
dc.subject | พลาสติกชนิดอ่อนตัว | |
dc.subject | ขยะพลาสติก | |
dc.subject | มาตรฐาน ISCC PLUS | |
dc.subject.other | เศรษฐกิจหมุนเวียน | |
dc.subject.other | การพัฒนาอย่างยั่งยืน | |
dc.title | การศึกษาความเป็นไปได้และปัจจัยที่ควรพิจารณาในการขอรับรองมาตรฐาน ISCC PLUS ของบริษัทผลิตบบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนตัวแห่งหนึ่ง | |
dc.type | text::report::research report | |
mods.genre | Independent Study | |
thesis.degree.department | คณะบริหารการพัฒนาสิ่งแวดล้อม | |
thesis.degree.discipline | ศาสตร์และการจัดการความยั่งยืน | |
thesis.degree.discipline | การจัดการสิ่งแวดล้อม | |
thesis.degree.grantor | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ | |
thesis.degree.level | Masters | |
thesis.degree.name | วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต |
Files
License bundle
1 - 1 of 1
No Thumbnail Available
- Name:
- license.txt
- Size:
- 1.71 KB
- Format:
- Item-specific license agreed upon to submission
- Description: