ประสิทธิผลการนำนโยบายป้องปรามทุจริตเลือกตั้งขององค์กรกลางไปปฏิบัติการ : วิจัยปฏิบัติการเรื่องการนำระบบข่าวสารข้อมูลด้านกว้างและด้านลึกเพื่อแจ้งเตือนผู้ที่อยู่ในข่ายเบาะแสละเมิดกฎหมายเลือกตั้งในเขตเลือกตั้ง ค จังหวัดนครศรีธรรมราช
| dc.contributor.advisor | แสวง รัตนมงคลมาศ, อาจารย์ที่ปรึกษา | th |
| dc.contributor.author | สาคร บุญอาจ | th |
| dc.date.accessioned | 2014-05-05T09:26:17Z | |
| dc.date.available | 2014-05-05T09:26:17Z | |
| dc.date.issued | 1993 | th |
| dc.date.issuedBE | 2536 | th |
| dc.description | วิทยานิพนธ์ (พบ.ม.(พัฒนาสังคม))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2536. | th |
| dc.description.abstract | การวิจัยนี้เป็นการวิจัยปฏิบัติการ ผู้วิจัยได้เข้าไปร่วมปฏิบัติการในพื้นที่ทดลองเป็นเวลา 1 เดือน โดย มีวัตถุประสงค์ที่จะศึกษาถึงผลของการนำระบบข่าวสารข้อมูลด้านกว้างและด้านลึกเพื่อแจ้งเตือนผู้ที่อยู่ในข่ายเบาะแสละเมิดกฎหมายเลือกตั้ง ตลอดจนศึกษาถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิผลของการนำนโยบายป้องปรามทุจริตเลือกตั้งขององค์กรกลางไปปฏิบัติ รวมถึงปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงาน กลุ่มตัวอย่างคือ หัวคะแนนของผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่อยู่ในข่ายเบาะแสละเมิดกฎหมายเลือกตั้ง. | th |
| dc.description.abstract | ผลการวิจัยพบว่า. | th |
| dc.description.abstract | 1. การนำสื่อด้านกว้าง อันได้แก่ โปสเตอร์ สติกเกอร์ สื่อโฆษณาทางทีวีและวิทยุกระจายเสียง ฯลฯ ไปใช้ในการแจ้งเตือนที่ไม่เน้นกลุ่มเป้าหมายและพื้นที่เป้าหมายใดโดยเฉพาะ พบว่าการใช้สื่อด้านกว้างนั้นส่งผลต่อการรับรู้ของประชาชนอยู่ในระดับหนึ่ง แต่มิได้เกิดผลในด้านการนำไปปฏิบัติ ปัญหาของกลไกการกระจายสื่อด้านกว้างคือความล่าช้าในการส่งไปยังพื้นที่ต่าง ๆ และอาสาสมัครบางส่วนไม่ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ต่อ | th |
| dc.description.abstract | 2. การนำสื่อด้านลึกโดยใช้รถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่จำนวน 4 คัน ซึ่งติดคัดเอาท์, เทปบันทึกเสียง, แจกใบปลิว, ติดโปสเตอร์, การปราศรัย ตลอดจนการปรากฏตัวแบบเผชิญหน้า พร้อมทั้งขยายผลการปรากฏตัว ซึ่งเป็นยุทธวิธีแจ้งเตือนที่มีลักษณะเน้นไปยังกลุ่มเป้าหมายและพื้นเป้าหมาย ผลการวิจัยพบว่าสื่อด้านลึกทำให้เกิดผลในการยับยั้งพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของหัวคะแนนไม่ให้กระทำการทุจริตในการเลือกตั้ง. | th |
| dc.description.abstract | 3. กระบวนการนำนโยบายป้องปรามทุจริตเลือกตั้งขององค์กรกลางไปปฏิบัติประสบผลสำเร็จได้ด้วยองค์ประกอบ 4 ประการคือ | th |
| dc.description.abstract | 3.1 ด้านความแจ่มชัดในเป้านโยบาย คือ มีเป้าในการนำนโยบายไปปฏิบัติ 3 ด้านด้วยกันคือ เป้าป้องกันการทุจริต เป้าปราบปรามการทุจริต และเป้าส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแจ้งเหตุเมื่อพบเห็นผู้กระทำความผิด | th |
| dc.description.abstract | 3.2 ด้านการมีแผนปฏิบัติการในการแจ้งเตือน ได้มีการประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่สองรอบคือ รอบแรกกระทำในช่วงกลางฤดูการเลือกตั้งในพื้นที่เป้าหมายทุกตำบลใน 5 อำเภอ รอบที่สอง กระทำในช่วงปลายฤดูการเลือกตั้งในพื้นที่เป้าหมายหลัก เพื่อเป็นการตอกย้ำให้หัวคะแนนรับรู้ว่ากำลังถูกองค์กรกลางและมหาดไทยจับตามองอยู่ | th |
| dc.description.abstract | 3.3 ด้านยุทธวิธีในการแจ้งเตือน มีการเลือกรูปแบบการแจ้งเตือนที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและพื้นที่เป้าหมายคือ การปรากฏตัวแบบเผชิญหน้าโดยการสัมภาษณ์หัวคะแนนในพื้นที่อำเภอ ค และดักจับรถขนธนบัตรในพื้นที่อำเภอ ง พร้อมทั้งมีการขยายผลการปรากฏตัวไปยังพื้นที่อำเภอ ก, ข และ จ | th |
| dc.description.abstract | 3.4 ด้านความพร้อมในทรัพยากรการบริหาร ซึ่งประกอบด้วย อัตรากำลัง งบประมาณ วัสดุอุปกรณ์ และระยะเวลา พบว่ามีความเหมาะสม | th |
| dc.description.abstract | 4. ประสิทธิผลของการนำนโยบายป้องปรามทุจริตเลือกตั้งไปปฏิบัติ แบ่งออกเป็น 2 ด้านคือ | th |
| dc.description.abstract | 4.1 ด้านคุณภาพโดยการสังเกตพฤติกรรมแบบไม่มีส่วนร่วมจากการสัมภาษณ์หัวคะแนนในพื้นที่อำเภอ ค พบว่า หัวคะแนนส่วนใหญ่มีความหวาดหวั่น เกรงกลัว ระแวงกลัวถูกลงโทษ | th |
| dc.description.abstract | 4.2 ด้านปริมาณ โดยใช้เป้าชนะเปรียบเทียบกับผลคะแนนที่ผู้สมัครได้รับจากการเลือกตั้ง พบว่า ผู้สมัครของพรรคที่หัวคะแนนถูกแจ้งเตือนได้คะแนนต่ำกว่าเป้าชนะ และพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งทั้งสามราย เนื่องจากหัวคะแนนส่วนใหญ่หยุดพฤติกรรมการเคลื่อนไหว เพราะเกรงกลัว หวาดหวั่น ระแวง กลัวถูกลงโทษ | th |
| dc.description.abstract | สรุปผลการวิจัย. | th |
| dc.description.abstract | การนำเอานโยบายป้องปรามทุจริตเลือกตั้งขององค์กรกลางไปปฏิบัติประสบความสำเร็จได้ ด้วยการนำระบบข่าวสารข้อมูลด้านกว้างและด้านลึก เพื่อแจ้งเตือนประกอบกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่อด้านลึกนั้น สามารถยับยั้งพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของหัวคะแนนที่ถูกแจ้งเตือน | th |
| dc.format.extent | ก-ช [100], 34 แผ่น | th |
| dc.format.mimetype | application/pdf | th |
| dc.identifier.doi | 10.14457/NIDA.the.1993.44 | |
| dc.identifier.uri | http://repository.nida.ac.th/handle/662723737/1768 | th |
| dc.language.iso | tha | th |
| dc.publisher | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ | th |
| dc.rights | ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0) | th |
| dc.subject.lcc | JQ 1749 .A79 ส21 | th |
| dc.subject.other | การเลือกตั้ง -- ไทย | th |
| dc.subject.other | หัวคะแนน -- ไทย -- นครศรีธรรมราช | th |
| dc.subject.other | การนำนโยบายไปปฏิบัติ | th |
| dc.title | ประสิทธิผลการนำนโยบายป้องปรามทุจริตเลือกตั้งขององค์กรกลางไปปฏิบัติการ : วิจัยปฏิบัติการเรื่องการนำระบบข่าวสารข้อมูลด้านกว้างและด้านลึกเพื่อแจ้งเตือนผู้ที่อยู่ในข่ายเบาะแสละเมิดกฎหมายเลือกตั้งในเขตเลือกตั้ง ค จังหวัดนครศรีธรรมราช | th |
| dc.title.alternative | The effectiveness of policy implementation on protecting election dishonesty of the Poll Watch Committee : a case study of action research on the use of open and specific target group media of information system for warning the suspected election law violators in election area C Nakornsrithammarath Province | th |
| dc.type | text--thesis--master thesis | th |
| mods.genre | Thesis | th |
| mods.physicalLocation | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา | th |
| thesis.degree.department | คณะพัฒนาสังคม | th |
| thesis.degree.discipline | การวิเคราะห์และวางแผนทางสังคม | th |
| thesis.degree.grantor | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ | th |
| thesis.degree.level | Masters | th |
| thesis.degree.name | พัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิต | th |
Files
Original bundle
1 - 1 of 1
- Name:
- nida-ths-b5084.pdf
- Size:
- 2.48 MB
- Format:
- Adobe Portable Document Format
- Description:
- Full Text

