ปัญหาการเลี้ยงดูเด็กและการจัดสวัสดิการชุมชนในเมือง: ศึกษากรณี 4 ชุมชนในเขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร
by ศรีหทัย วาดวารี
Title: | ปัญหาการเลี้ยงดูเด็กและการจัดสวัสดิการชุมชนในเมือง: ศึกษากรณี 4 ชุมชนในเขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร |
Other title(s): | Problems of child rearing and community welfare management: case studies of four communities in Wangthonglang District, Bangkok |
Author(s): | ศรีหทัย วาดวารี |
Advisor: | สมศักดิ์ สามัคคีธรรม |
Degree name: | ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต |
Degree level: | Master's |
Degree discipline: | การบริหารการพัฒนาสังคม |
Degree department: | คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม |
Degree grantor: | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
Issued date: | 2017 |
Publisher: | สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ |
Abstract: |
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาปัญหาการเลี้ยงดูเด็กและการจัดสวัสดิการเด็กในชุมชนเมือง 4 ชุมชน 2) เพื่อศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาการเลี้ยงดูเด็กของบิดามารดาในชุมชนเมือง 3) เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาการจัดสวัสดิการเด็กที่สอดคล้องกับปัญหาและความต้องการของคนในชุมชนเมือง ด้วยวิธีวิจัยแบบผสมทั้งวิธีวิจัยเชิงปริมาณและวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้วิธีการวิจัยเชิงปริมาณในการเก็บรวบรวมข้อมูลครอบครัวที่มีเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 4 ปี ในภาพรวมของทั้ง 4 ชุมชน และวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพซึ่งเป็นวิธีหลัก โดยการสัมภาษณ์เจาะลึกกับผู้ให้ข้อมูลที่สำคัญทั้ง 4 ชุมชน จำนวนทั้งสิ้น 26 คน ผลการศึกษาพบว่า รูปแบบการเลี้ยงดูเด็กที่มีข้อจำกัดในอนาคต คือ บ้านรับเลี้ยงเด็กที่บางส่วนเริ่มปิดตัวลงไป เพราะค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูเด็กมีราคาสูง อีกทั้งอัตราการเกิดของเด็กในชุมชนที่ลดลง และการเลี้ยงดูเด็กโดยคนในครอบครัว ไม่สามารถตอบสนองข้อจำกัดของครอบครัวในชุมชนเมืองที่ส่วนใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างครอบครัวเป็นรูปแบบครอบครัวเดี่ยวมากขึ้น ส่วนรูปแบบการเลี้ยงดูเด็กที่มีความเหมาะสมกับครอบครัวในชุมชนเมือง คือ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนวัยเรียน มีอาคารสถานที่ที่มั่นคงเป็นสัดส่วนและค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูเด็กมีราคาถูก เพราะมีการดำเนินงานภายใต้คณะกรรมการชุมชน ทำให้ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานและองค์กรต่างๆ แต่มีข้อจำกัดด้านเวลาในการรับส่งเด็กยังไม่สอดคล้องกับการทำงานของผู้ปกครองในชุมชนเมืองและยังขาดบุคลากรที่จบหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยมาเป็นผู้นำการพัฒนา และบ้านร่วมพัฒนาเด็ก มีการเลี้ยงดูเด็กจำนวนมาก เพื่อให้มีค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูเด็กในราคาถูก ซึ่งรองรับต่อผู้ปกครองภายในชุมชนที่มีรายได้น้อย แต่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่คับแคบและไม่เป็นสัดส่วน ไม่สามารถจดทะเบียนสถานรับเลี้ยงเด็กอย่างเป็นทางการได้ อีกทั้งหน่วยงานและองค์กรที่มีความต้องการให้ความช่วยเหลือเข้าถึงได้ยาก การศึกษาครั้งนี้มีข้อเสนอแนะให้ส่งเสริมเนอร์สเซอรี่ชุมชนที่รวบรวมข้อดีและลดข้อจำกัดของรูปแบบการเลี้ยงดูเด็กในแต่ละชุมชน คือ เนอร์สเซอรี่ชุมชนที่มีการรับเลี้ยงเด็กเล็ก ดำเนินงานภายใต้การก ากับดูแลของคณะกรรมการชุมชน ร่วมประสาน ติดตามและสร้างมาตรฐานการดำเนินงานที่ดี ยืดหยุ่นระยะเวลาการดำเนินงานให้รองรับกับการทำงานของผู้ปกครองในชุมชนเมือง มีค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูเด็กในราคาถูก อีกทั้งการเข้ามามีส่วนร่วมของชมรมผู้สูงอายุที่สมัครใจเลี้ยงดูเด็กเพื่อหารายได้เสริม และเป็นการสร้างคุณค่าแก่ผู้สูงอายุในการเลี้ยงดูบุตรหลานภายในชุมชนให้เติบโตเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ |
Description: |
วิทยานิพนธ์ (ศศ.ม. (การบริหารการพัฒนาสังคม))--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2560 |
Subject(s): | การเลี้ยงดูเด็ก |
Resource type: | วิทยานิพนธ์ |
Extent: | 199 แผ่น |
Type: | Text |
File type: | application/pdf |
Language: | tha |
Rights: | ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0) |
URI: | https://repository.nida.ac.th/handle/662723737/5929 |
Files in this item (CONTENT) |
|
View ทรัพยากรสารสนเทศทั้งหมดในคลังปัญญา ใช้เพื่อประโยชน์ทางการเรียนการสอนและการค้นคว้าเท่านั้น และต้องมีการอ้างอิงแหล่งที่มาทุกครั้งที่นำไปใช้ ห้ามดัดแปลงเนื้อหา และทำสำเนาต่อ รวมถึงไม่ให้อนุญาตนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการค้า ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
|
This item appears in the following Collection(s) |
|
|