สิทธิของคนต่างด้าวในการเข้าถึงบริการสาธารณสุขของรัฐ: ศึกษากรณีสิทธิในการรักษาพยาบาล
Files
Publisher
Issued Date
2016
Available Date
Copyright Date
Resource Type
Series
Edition
Language
tha
File Type
application/pdf
No. of Pages/File Size
305 แผ่น
ISBN
ISSN
eISSN
Other identifier(s)
b198230
Identifier(s)
Access Rights
Access Status
Rights
ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
Rights Holder(s)
Physical Location
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. สำนักบรรณสารการพัฒนา
Bibliographic Citation
Citation
นฤพนธ์ ทรงพระ (2016). สิทธิของคนต่างด้าวในการเข้าถึงบริการสาธารณสุขของรัฐ: ศึกษากรณีสิทธิในการรักษาพยาบาล. Retrieved from: https://repository.nida.ac.th/handle/662723737/6139.
Title
สิทธิของคนต่างด้าวในการเข้าถึงบริการสาธารณสุขของรัฐ: ศึกษากรณีสิทธิในการรักษาพยาบาล
Alternative Title(s)
The right to public health services of an alien : case study of the right to medical treatment
Author(s)
Editor(s)
Advisor(s)
Advisor's email
Contributor(s)
Contributor(s)
Abstract
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงสถานะแห่งสิทธิของคนต่างด้าวในการเข้าถึงบริการ รักษาพยาบาล ปัญหาอุปสรรคและแนวทางในการจัดระบบการเข้าถึงสิทธิในการรักษาพยาบาลของ คนต่างด้าว โดยมีขอบเขตของการศึกษาเฉพาะกรณีคนไร้สัญชาติแรงงานต่างด้าว เด็กต่างด้าว ผู้ลี้ภัย และผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน ผลการวิจัยพบว่า สิทธิในการเข้าถึงบริการรักษาพยาบาล เป็นสิทธิที่บุคคลไม่อาจบรรลุความ มุ่งหมายได้หากปราศจากการเข้ามาดําเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดโดยรัฐ หรือที่เรียกว่า “status positivus” ซึ่งมีสถานะเป็น “สิทธิขั้นพื้นฐานในการดํารงชีพ” ที่บุคคลไม่ว่าเชื้อชาติหรือสัญชาติใด หรืออยู่ ณ ที่ใดในโลก ย่อมมีความสามารถเป็นผู้ทรงสิทธินี้ได้โดยประเทศต่าง ๆ ได้ให้การรับรอง สิทธินี้ไว้ในกฎหมายระหว่างประเทศ และระบบกฎหมายภายในของประเทศ ดังเช่นประเทศ สหรัฐอเมริกาที่ได้รับรองสิทธินี้โดยผลของคําพิพากษาศาลสูงแห่งสหรัฐ ซึ่งวางหลักการตีความ รัฐธรรมนูญในเรื่องหลักความเสมอภาคโดยขยายความรวมถึงการรับรองสิทธินี้ให้กับคนต่างด้าวด้วย เช่นเดียวกับประเทศอังกฤษ ประเทศเยอรมนีและประเทศฝรั่งเศสที่ได้รับรองสิทธินี้ให้แก่คนต่างด้าว ตามพันธกรณีในทางระหว่างประเทศของสหภาพยุโรป และตามกฎหมายภายในที่รัฐตราขึ้น ส่วนการ ให้ความคุ้มครองสิทธินี้จะเป็นเป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติต่อคนต่างด้าว ซึ่งแตกต่างกันไปตาม สถานะของคนต่างด้าวและบริบทของแต่ละประเทศ สําหรับประเทศไทย ไม่มีการรับรองสิทธินี้ให้แก่ คนต่างด้าวไว้อย่างชัดแจ้งในระบบกฎหมายไทย โดยปัจจุบันมีเพียงการดําเนินนโยบายของรัฐที่ขยาย ความคุ้มครองสิทธิประกันสังคมให้รวมถึงแรงงานต่างด้าว และการจัดตั้งกองทุนประกันสุขภาพของ กระทรวงสาธารณสุขขึ้น เพื่อให้คนต่างด้าวที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคมสามารถเข้าถึงหลักประกัน สุขภาพ แต่ยังคงมีข้อจํากัดในเรื่องเงื่อนไขของการเป็นผู้ทรงสิทธิและกระบวนการเข้าสู่สิทธิซึ่งเป็น ปัญหาสําคัญที่ทําให้คนต่างด้าวเป็นจํานวนมากไม่สามารถเข้าถึงบริการรักษาพยาบาลได้จากผลการวิจัยดังกล่าว มีข้อเสนอแนะให้สร้างหลักประกันสุขภาพสําหรับคนต่างด้าว ภายใต้ หลักการ “ประกันสุขภาพบนพื้นฐานของการจ้างงาน” โดยผู้ที่อยู่ในระบบการจ้างงานควรจัดสรรให้ เข้าสู่ระบบประกันสังคมทั้งหมด ส่วนผู้ที่มิใช่แรงงานควรจัดสรรให้เข้าสู่ระบบหลักประกันสุขภาพ แห่งชาติโดยบัญญัติรับรองสิทธิของคนต่างด้าวไว้ในพระราชบัญญัติหลกประกันสุขภาพแห่งชาติพ.ศ. 2545 และรวมกองทุนประกันสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุขเข้ากับกองทุนหลักประกันสุขภาพ แห่งชาติโดยมีขอบเขตการคุ้มครองเฉพาะคนต่างด้าวที่เกิดในประเทศ และอยู่ภายใต้หลักการ “ร่วม จ่ายค่าบริการ” ส่วนกรณีผู้ลี้ภัย ผู้หลบหนีเข้าเมือง และผู้ไร้สถานะทางทะเบียน ควรกําหนดเป็น มาตรการทางบริหารโดยจัดตั้งงบประมาณสนับสนุนสถานพยาบาล และมุ่งเน้นให้ความคุ้มครอง เฉพาะบริการด้านการแพทย์ฉุกเฉิน หรือบริการที่จําเป็นทางสุขภาพเท่านั้น เพื่อให้เกิดดุลยภาพของ การคุ้มครองสิทธิกับภาระทางการคลังของรัฐ
Table of contents
Description
วิทยานิพนธ์ (น.ม.)--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, 2559